การทำผิดทั้งรู้และการแก้ไข หลวงพ่อตอบปัญหา เรื่อง การครองตน หน้า 32
หน้าที่ 32 / 118

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจว่าเหตุใดผู้คนจึงมักทำผิดแม้จะรู้ว่าเป็นความผิด โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ (1) ความผิดที่เกิดจากนิสัยที่มักง่าย (2) ความเชื่อในการไม่ต้องรับผิดชอบในชาติหน้าซึ่งทำให้คนไม่รู้สึกผิด และ (3) ขาดกำลังใจในการทำความดี การสร้างพื้นฐานตั้งแต่เด็กจะช่วยลดการกระทำผิดในอนาคตได้ โดยพ่อแม่และครูต้องมีบทบาทสำคัญในการสอนความดีให้กับเด็ก

หัวข้อประเด็น

-การทำผิด
-การแก้ไขพฤติกรรม
-การสร้างพื้นฐานให้เด็ก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การครองตน ๑๒. ทำผิดทั้งๆ ที่รู้ ทำไมคนส่วนใหญ่จึงชอบทำผิดทั้งๆ ที่รู้คะ ? การทำผิดทั้งๆ รู้มีอยู่ ๓ ลักษณะด้วยกัน คือ ๑.ทำผิดเพราะติดนิสัยมักง่ายมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งความผิด ประเภทนี้ มักเป็นความผิดเล็กน้อย ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เช่น เดิน ลัดสนาม ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย ทิ้งขยะไม่เลือกที่ ฯลฯ ๒.ทำผิดเพราะหลงคิดว่า คนเราตายแล้วสูญ ชาติหน้าไม่ มี เขามีความคิดว่า ความดีความชั่วที่ทำไว้ มีผลเฉพาะชาตินี้เท่านั้น เอง ฉะนั้นถ้าเขามีอำนาจหรือสามารถหลีกเลี่ยงได้ กฎหมายจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน เขาก็จะไม่ถูกลงโทษ และไม่มีผลอะไร คนทำผิดลักษณะนี้ถือว่าเป็นความผิดเนื่องจากขาดหิริ- โอตตัปปะ คือขาดความละอาย ขาดความเกรงกลัวต่อผลของบาป คน พวกนี้เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเก่ง เมื่อสามารถคดโกงเอาเปรียบคนอื่นได้ คนบางคนของในบ้านทั้งหมด ทั้งของกินของใช้ ล้วนแต่เป็นของที่โกง เขามาทั้งนั้น ๓.ทำผิดเพราะขาดกำลังใจที่จะทำความดี ความผิดประเภท นี้ทำทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดกฎหมายและรู้ด้วยว่าบาป แต่ก็ทำ เพราะเขาไม่มี กำลังใจที่จะตัดใจไม่ให้ทำชั่ว และขาดกำลังใจที่จะทำความดี ปล่อยให้ ความอยากมีอำนาจเหนือจิตใจ เล็กๆ โดย การแก้ไขคนทำผิดทั้งรู้ จะต้องปูพื้นฐานให้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๑.พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต้องไม่ปล่อยปละละเลยเด็ก ต้อง พระภาวนาวิริยคุณ 32 (เผด็จ ทัตตชีโว)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More