ข้อความต้นฉบับในหน้า
การครองตน
บังเอิญมีคนบ้านป่าเดินสวนทางมา เขามีข้าวอยู่ห่อหนึ่ง
โยมเลยเข้าไปขอซื้อ คนบ้านป่าไม่ยอมขาย ให้เท่าไหร่เขาก็ไม่ขาย ให้
เป็นสิบเป็นร้อย ก็ไม่ขาย
ในที่สุดโยมบอกว่าอย่างนี้ บอกว่าไปทำงานมา 9 ปี เก็บเงิน
ได้เป็นพัน จะเอาไปไถ่ลูกสาวคืน เอาอย่างนี้เถอะนะ เอาเงินไปเลยหมด
ทั้งพันขอข้าวห่อนั้นก็แล้วกัน จะเอาไปถวายพระ คนบ้านป่าจึงยอม
ขายให้
ตกลงข้าวห่อนั้นราคาเป็นพัน ก็ไม่ได้วิเศษอะไรเลย เป็นกับ
ข้าวบ้านป่า โยมคนนี้แกได้มาแล้วก็วิ่งตามพระไป เอาไปถวายให้ฉัน
ถวายเสร็จแล้ว พระท่านก็ไม่ได้พิจารณาอะไรทั้งสิ้น โยมถวายมาก็ฉัน
ฉันหมดไม่ได้แบ่งให้โยมเลย โยมก็ไม่ว่ากระไร
พอพระฉันเสร็จก็เดิน ทางกันต่อ คุยกันไปคุยกันมาถึงได้รู้
ว่าข้าวที่ฉันเมื่อกี้ราคาเป็นพัน แล้วนี่ยังจะทำให้ลูกสาวตาโยมคนนี้
ต้องเป็นคนใช้บ้านเศรษฐีต่อไปอีกเป็นปี เพราะไม่มีเงินจะไปไถ่ตัวแล้ว
พระฟังแล้วตกใจ คิดว่านี่ถ้าชาตินี้เราไม่ได้เป็นพระอรหันต์
ละก็ ชาติต่อไปคงต้องเกิดเป็นควายให้ลูกสาวตาโยมคนนี้ใช้งานแน่ๆ
เราบวชงวดนี้นอกจากมรรคผลนิพพานไม่ได้แล้ว ยังจะต้องไปเป็นควาย
อีกหรือนี่ เพราะฉันอาหารก็ไม่ได้พิจารณา ที่ผ่านมาในการเป็นพระก็
ไม่ได้พิจารณา การทำภาวนาก็ทำไปอย่างนั้นเอง ศึกษาพระธรรมวินัย
ก็ผ่านๆ แต่งวดนี้มาเจอศรัทธาของโยมเข้า
โอ้โฮ..โยมนี่ศรัทธาแรงกว่าเราอีกหรือนี่ ขึ้นพลาดไปต้อง
เป็นควายให้ครอบครัวของโยมใช้แน่ๆ ในชาติหน้า ทั้งกลัวนรก ทั้ง
กลัวเกิดเป็นควาย พระภิกษุรูปนั้น พอเดินทางพ้นป่าแล้ว ก็ลาโยม
ด้วยอำนาจหิริโอตตัปปะท่วมหัวใจ ท่านไปขออาศัยวัดแห่ง
พระภาวนาวิริยคุณ 36 (เผด็จ ทัตตชีโว)