การครองตนและความรักที่เป็นทุกข์ หลวงพ่อตอบปัญหา เรื่อง การครองตน หน้า 92
หน้าที่ 92 / 118

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงแนวคิดที่ว่า "ความรักเป็นความทุกข์" โดยยกตัวอย่างความรักระหว่างหญิงชายและความรักในสายเลือดที่สามารถนำไปสู่ความทุกข์ เมื่อมีความรักเกิดขึ้นย่อมมีความกังวลและความหวงแหน ความรักทำให้เรารู้สึกหลากหลายอารมณ์ ทั้งสุขและทุกข์ การครองตนเป็นโสดหรือบวชถือเป็นการดำเนินชีวิตที่ไม่ก่อให้เกิดทุกข์จร ซึ่งในบทความนี้ยังกล่าวถึงความชาญฉลาดในการใช้ชีวิตแบบนี้ว่าทำให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความทุกข์จากการพลัดพรากและสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่เข้ามาในชีวิตได้

หัวข้อประเด็น

- ความรัก
- ความทุกข์
- การครองตน
- ชีวิตโสด
- พรหมจรรย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การครองตน ๓๔. รัก..อีกแล้ว หลวงพ่อคะ ทำไมจึงว่า “ความรักเป็นความทุกข์” คะ ? ความรักโดยเฉพาะความรักระหว่างหญิงชาย คือต้นเหตุ แห่งความทุกข์ที่แฝงมาในรูปของความสุข เหมือนยาพิษที่ถูกเคลือบ ไว้ด้วยน้ำตาล เพราะเมื่อความรักเกิดขึ้นในบุคคลใดแล้ว ก็ทำให้เกิด ความกังวล ห่วงใย เกิดความหวงแหนในคนรัก กลัวไปว่าเขาจะเป็น อื่น คือยิ่งรักก็ยิ่งห่วง ยิ่งห่วงก็ยิ่งหวง ยิ่งหวงก็ยิ่งตึง เมื่อยิ่งดึงก็ ยิ่งเป็นทุกข์ ใครมีรักหนึ่ง อย่างน้อยก็ทุกข์หนึ่ง มีรักเป็นร้อยก็ทุกข์เป็น ร้อย พูดง่ายๆ มากรัก ก็มากน้ำตา เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่มีรัก ก็ไม่ต้องเสียน้ำตาและจะเป็นคน มีความสุขที่สุด อย่าว่าแต่ความรักระหว่างหญิงกับชายเลย แม้แต่ ความรักระหว่างสายเลือดระหว่างพ่อ-แม่-ลูก ก็ยังเป็นเหตุให้เกิด ความทุกข์ได้ คือเมื่อถึงคราวต้องล้มหายตายจากกันไป ก็ทำให้เป็น ทุกข์อยู่ดี ตั้งแต่โบราณกาลมา หญิงชายคนใดสามารถครองตัวเป็นโสด หรือออกบวชประพฤติพรหมจรรย์ได้ มักได้รับการยกย่องสรรเสริญว่า เป็นบุคคลที่ฉลาดในการดำเนินชีวิต เพราะอย่างน้อยที่สุด แม้จะไม่ บรรลุมรรคผลนิพพาน ก็ไม่ต้องประสบกับความทุกข์จร คือทุกข์ที่ผ่าน มาเป็นครั้งคราว ได้แก่ ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความ น้อยใจ ความคับแค้นใจ การประสบสิ่งที่ไม่ชอบใจ การพลัดพรากจาก สิ่งที่รัก ความทุกข์เหล่านี้หมุนเวียนกันเข้ามาให้เผชิญทุกรูปแบบโดย ไม่จําเป็น พระภาวนาวิริยคุณ 92 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More