การเตรียมจิตใจก่อนการทำหน้าที่กัลยาณมิตร DF 202 ทักษะการทำหน้าที่กัลยาณมิตร หน้า 59
หน้าที่ 59 / 127

สรุปเนื้อหา

ก่อนที่บุคคลจะออกไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร ต้องเตรียมจิตใจให้บริสุทธิ์และผ่องใส โดยการนั่งสมาธิและแผ่เมตตา อธิษฐานจิตเมื่อใจใสดีแล้ว ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา และความอดทนในการพบเจอทั้งผู้ที่เข้าใจและไม่เข้าใจ เป็นสิ่งจำเป็น การรักษากำลังใจให้เข้มแข็งช่วยให้การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ บุคคลที่มีความศรัทธาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกดี ๆ แก่ผู้อื่นได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการสร้างบุญและบารมีในเราทุกคน

หัวข้อประเด็น

- การเตรียมจิตใจ
- การนั่งสมาธิ
- การแผ่เมตตา
- การทำหน้าที่กัลยาณมิตร
- ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา
- การสร้างบุญและบารมี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4.2 การเตรียมจิตใจก่อนการไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร เมื่อเตรียมความรู้ อุปกรณ์ และสุขภาพร่างกาย พร้อมที่จะทำหน้าที่กัลยาณมิตรแล้ว ก่อนที่เรา จะออกไปทำหน้าที่ให้แก่ผู้อื่น เราต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้แก่ตนเองเสียก่อน คือ การเตรียมใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ควรหาเวลานั่งสมาธิทำใจให้หยุดนิ่งให้ได้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ใจของเราจะได้ผ่องใสบริสุทธิ์ และ เกิดความปรารถนาดีมีกำลังใจ ที่จะนำสิ่งอันเป็นมงคลไปสู่บุคคลที่เรารู้จักซึ่งเขากำลังรอเราอยู่ เมื่อใจใสดีแล้วจึงแผ่เมตตา แผ่ออกไปอย่างกว้างขวางตั้งแต่ตัวเรา เมื่อแผ่เมตตาแล้ว ต่อจากนั้นให้ เราอธิษฐานจิต โดยนึกถึงบุญบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน และบุญบารมี ของตัวเราเอง ขออานุภาพแห่งบุญบารมีทั้งหลายเหล่านั้น ส่งผลดลบันดาลให้เรามีจิตใจสะอาดผ่องใส รองรับ ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โดยง่ายให้สามารถทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้อย่างดีเยี่ยมให้ได้พบแต่บุคคล ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ และพร้อมจะรับฟังคำแนะนำของเราด้วยสติปัญญาอันเลิศ และขอให้ชีวิตของเราจงเป็น ไปเพื่อการสร้างบุญสร้างบารมี เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ ทั้งนี้ เราจะทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้บริบูรณ์ ด้วยกำลังใจอันเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อหรือท้อถอย ไม่ให้ อุปสรรคเพียงน้อยนิด มาทำลายความปรารถนาดีอันแน่วแน่ในดวงใจของเราได้เลย ในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรนั้น เราจะต้องพบเจอทั้งคนดี และคนที่ยังไม่เข้าใจ อาจจะมีปฏิกิริยา ตอบสนองทั้งทางบวกและทางลบ ซึ่งผู้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรย่อมทราบดีว่า คนเรานั้นมีหลายระดับ ดังที่ เปรียบเทียบไว้เหมือนบัว 4 เหล่า และบุคคลที่เราจะไปเป็นกัลยาณมิตรให้นั้น มีหลายประเภท เราจะต้อง ใช้ความอดทนและมีการฝึกฝนอบรมจิตใจตนเองมาเป็นอย่างดี ดังเช่น ตัวอย่างพระมหาเถระรูปหนึ่งของ วัดพระธรรมกาย ท่านเคยเล่าประสบการณ์ตอนหนึ่งที่ท่านไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรไว้ว่า “หลังจากที่ได้ผ่านการทำหน้าที่กัลยาณมิตรมานาน อาตมาพบว่า ท่าที ที่เรามีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ต่อบุญและผล ของบุญ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บุคคลที่เราไปพบมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะ มีท่าทีของผู้ที่ใช้ปัญญานำหน้าบ้างมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองบ้าง ซึ่งพอไปทำหน้าที่จริงๆ แล้วจะเจอคำถามมากกว่าจะปลูกศรัทธา แต่ละรายได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะเขาจะถามไปถามมา วนไปวนมาไม่รู้จบ เราก็ ต้องตอบเท่าที่เรามีภูมิรู้ให้เขาเข้าใจ แต่มีกัลยาณมิตรบางท่านที่ไปทำหน้าที่ บอกบุญ ท่านไม่รู้ธรรมะอะไรมากมาย แต่มีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามาก ศรัทธาคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ศรัทธาต่อปฏิปทาของวัดมาก ว่าวัดนี้ เป็นวัดที่จะเผยแผ่ธรรมะให้คนได้เข้าถึง แก่นของธรรมะ ให้คนได้เข้าถึงความสุข จากการปฏิบัติธรรมจริงๆ ความศรัทธาที่เกิดจากการสร้างวัดนี้เป็นสิ่งที่คนฟังรับได้ สื่อสารกันได้ถ่ายทอดความรู้สึกถึงกันได้โดยอัตโนมัติ และเป็นเรื่องแปลกที่พอพูด เพียงไม่กี่คำ คนฟังก็มีศรัทธาทำบุญเลย” 50 DOU ทักษะการทำหน้าที่ กัลยาณมิตร
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More