ข้อความต้นฉบับในหน้า
เรื่องที่เพื่อนๆ เอามาพูดกัน ยกตัวอย่าง เช่น วัดนี้รวยแล้ว จ้างคน
จ้างพระภิกษุมาวัด หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็หล่อมาก ผิวก็พรรณงาม เพราะว่าท่าน
อาบน้ำแร่แช่น้ำนมมา หรือจะฉันอาหารก็ต้องสั่งจากภัตตาคารหรูๆ หรือบางคน
ก็บอกว่า พระในวัดนี้ จะต้องมีการศึกษาสูง ต้องผิวพรรณวรรณะดี ถึงจะมาบวชได้
เพราะว่าท่านจะใช้ความงาม ใช้สติปัญญาที่เรียนมา เข้าทำนองว่ามา เกลี้ยกล่อม
หลอกลวง มาชักชวนให้ประชาชนทำบุญ หรือหลงเคลิ้มจนตามท่านมาที่วัด
ในที่ทำงานก็มีเพื่อนที่สนิทอีกคนหนึ่ง ที่ชอบการปฏิบัติธรรมเหมือนกัน
แต่ว่าไปวัดพระธรรมกาย เคยมาชวนเหมือนกัน ก็มาบอกว่าวัดดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
สารพัด พอได้ฟังก็หัวเราะใส่เขาแบบไม่เกรงใจ พร้อมทั้งบอกเพื่อนคนนั้นไปว่า
“เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ไปหรอกวัดนี้” แล้วก็ถามเชิงดูถูกไปว่า
“วัดนี้ให้ค่าจ้างเธอไปวัดเท่าไหร่ล่ะ” ซึ่งคำถามนี้ทำให้เขาโกรธมาก จนเขาพูด
สวนกลับมาว่า “เสียดายนะ ที่มึงเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายซะหน่อย กูต่อยปาก
มึงแน่” แล้วก็เดินจากไป
หลังจากนั้น ดิฉันก็ยังเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างๆ เช่นเดิม”
พบกัลยาณมิตร
หมู่บ้านที่ดิฉันอยู่นั้น มีผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่ง ยังอยู่วัยหนุ่ม เป็นคนดี
มีน้ำใจงาม เป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือลูกบ้านทุกครอบครัว เช่น กลางดึก
คืนหนึ่ง มีคนในหมู่บ้านไม่สบาย แล้วรถในหมู่บ้านก็หายาก เพราะว่าไม่ค่อยจะมี
ใครใช้กัน แต่พอพาคนป่วยไปหาผู้ใหญ่บ้าน ท่านก็ให้ช่วยเหลือรีบขับรถพาไปหา
หมอทันทีเลย โดยที่ไม่ถามเลยว่ามีค่าจ้างหรือค่ารถให้เขาหรือไม่ ก็รู้สึกประทับ
ผู้ใหญ่บ้านคนนี้มาก
มีอยู่วันหนึ่งซึ่งเป็นวันอาทิตย์ในเวลาเช้าเห็นผู้ใหญ่บ้านเดินมาเรียกดิฉัน
ที่ประตูรั้วบ้านว่า บอกว่าจะชวนไปเที่ยว แต่ดิฉันก็ไม่ได้คุยอะไรด้วย เพราะกำลัง
ซักผ้าอยู่ พอซักผ้าเสร็จ น้องสาวรีบเข้ามาหา พร้อมกับพูดเสียงดังใส่ดิฉันว่า
“รู้ไหม เขาจะชวนไปไหน” ข้าพเจ้าก็ตอบเสียงดังกลับไปว่า “รู้ เขาจะพาไปวัด
พระธรรมกาย” แล้วน้องก็บอกอีกว่า “ระวังนะ ไปที่นี่หลงทุกคน หมดตัว และ
ถ้าจะไปต้องเอาน้ำติดตัวไปกินด้วยนะ เพราะมีคนเขาว่า กินน้ำที่วัดแล้วจะหลง”
บทที่ 4 ทักษะการทำหน้าที่ กัลยาณมิตร ทางจิตใจ DOU 55