ข้อความต้นฉบับในหน้า
8. หากมีของฝาก ให้มอบของฝากที่เหมาะสม เช่น หนังสือธรรม เป็นต้น
9. การอนุโมทนาบุญก่อนกลับ ทั้งนี้ต้องแสดงความยินดีในความดีของเขาด้วย
10. การอวยพรที่ออกจากความปรารถนาดีจากตัวเรา
11. การอำลากลับ ซึ่งจะต้องไม่ลืมว่าเวลาจะกลับควรไหว้ และกล่าวสวัสดีลากลับ
สิ่งที่พึงตระหนักในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรประการหนึ่ง ก็คือ การเตรียมข้อมูลและเนื้อหาธรรมะ
ที่จะนำไปถ่ายทอดแนะนำแก่บุคคลทั้งหลาย ดังนั้น ผู้จะทำหน้าที่กัลยาณมิตรนั้นจะต้องเป็นผู้ขวนขวายใน
การศึกษาธรรมะ แม้จะไม่เชี่ยวชาญแบบนักปราชญ์ แต่ก็จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องราวที่เราจะนำไป
แนะนำแก่บุคคลทั้งหลายเป็นอย่างดี และเรื่องราวที่มักจะนำเข้าสู่การสนทนาในเบื้องต้นนั้น ผู้ที่จะไปทำ
หน้าที่กัลยาณมิตร ควรจะมีความรู้ในหัวข้อธรรม ดังต่อไปนี้
1. การหาทาน
2. การรักษาศีล
3. การเจริญภาวนา
นอกจากนี้ สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมก็เป็นเรื่องราวและข่าวคราวทั่วไปเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา แต่ก็ถือว่า
จะเป็นเสน่ห์สำหรับผู้ที่จะไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร ถ้าหากมีความรอบรู้ในด้านอื่นๆ อีก เพราะจะเป็นประโยชน์
ในการนำไปสู่การเปิดการสนทนา ในลักษณะที่พูดภาษาเดียวกันกับคู่สนทนาก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมา
พูดคุยหรือสนทนาในเรื่องธรรมะที่เราเตรียมไปได้
3.3 การพูดดีและพูดเป็นในการทำหน้าที่กัลยาณมิตร
ในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรจะต้องเป็นคนพูดดีและพูดเป็น กล่าวคือ คนพูดเป็นนอกจากเตรียม
เรื่องมาดีแล้ว จะต้องเป็นผู้ที่คิดให้รอบคอบและมีสติก่อนที่จะพูด และมีการกลั่นกรองคำพูดให้ละเอียดอ่อน
เสียก่อนแล้วจึงค่อยพูด เพราะการใช้คำพูดหากสามารถอธิบายได้ยิ่งละเอียดอ่อนลึกซึ้งเท่าไร ก็ยิ่ง
สามารถทำให้เกิดความประทับใจคนฟังได้ลึก และได้นาน ตรงกันข้ามคำพูดยิ่งหยาบเท่าไร ก็กลับจะทำให้
เกิดความระคายทั้งหู ระคายทั้งใจมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักในการพูดไว้ถึง
5 ประการด้วยกัน คือ
1. พูดด้วยจิตเมตตา กล่าวคือ ทุกครั้งที่เราจะพูดกับใครก็ตาม ให้ถามตัวเองเสียก่อนว่า ที่เราจะ
พูดต่อไปนี้ มีความปรารถนาดีต่อเขาหรือไม่ ถ้าคิดว่าพูดแล้วจะระคายหู ระคายใจ ทั้งคนฟังคนพูด ก็อย่า
พูด และหากมีการไต่ถามด้วยความไม่เข้าใจ เราจะต้องมีจิตเมตตาที่จะอธิบาย โดยไม่คิดว่าเป็นการยั่วเย้า
ให้เราโกรธ
บ ท ที่ 3 ทั ก ษะการทำหน้าที่ กัลยา ณ มิ ต ร ท า ง ว า จ า DOU 43