ข้อความต้นฉบับในหน้า
2. ประเภทวางใจในตัวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ประเภทที่ 2 จะเป็นการเอาใจมาไว้ข้างในตัว หรือคือการเอาความรู้สึกอยู่ภายในแล้วก็หยุดนิ่งเฉยๆ
ลอยๆ อยู่ภายในตัวของเราตามฐานต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ที่บริเวณทรวงอก แล้วหยุดนิ่งสงบ มี
ความเย็นกายเย็นใจเกิดขึ้น มีสติ มีปัญญา มีความรู้รอบตัวเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งการปฏิบัติด้วยวิธีที่สองนี้มีอยู่
น้อยในโลก วิธีอย่างนี้ยังถือว่าถูกมากกว่าผิด เช่น ถ้าฝึกฝนใจด้วยการปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ไม่
ยึดมั่นถือมั่นอะไรทั้งสิ้น แล้วก็ปล่อยให้สงบนิ่ง อยู่ภายในตัว จะทำให้รู้สึกมีความสุขอยู่ภายใน และการทำ
สมาธิแบบนี้จะทำให้มีความรู้สึกว่าเราไม่ติดอะไรเลย ไม่ยินดียินร้าย ปล่อยวางสงบ สว่างเย็น อยู่เฉยๆ
อยู่ภายใน จะไม่ค่อยมีนิมิตเลื่อนลอยเกิดขึ้น เพราะว่าปล่อยวางหมด เอาแต่ความบริสุทธิ์ผ่องใสอย่างเดียว
ให้สงบเย็น ความรู้ต่างๆก็เกิดขึ้นกว้างขวางกว่าเดิมมาก แต่ก็ยังเข้าไปไม่ถึงการพิจารณากายในกาย
เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม จึงยังไม่ได้ชื่อว่าเข้าถึงไตรสรณคมน์ หรือหนทางพ้นทุกข์ได้
อย่างสิ้นเชิง
3. ประเภทวางใจไว้ภายในร่างกายที่ศูนย์กลางกาย
ประเภทที่ 3 เป็นการฝึกใจโดยการเอาใจมาหยุดนิ่งภายในกลางกาย หรืออยู่ที่ตรงฐานที่ 7 หยุด
จนกระทั่งถูกส่วน แล้วเห็นปฐมมรรคเกิดขึ้นมาเป็นดวงสว่าง ดำเนินใจเข้าไปในทางนั้น กลางของกลาง
ปรากฏการณ์นั้น เข้าไปเรื่อยๆ โดยเอามรรคมีองค์ 8 ประการขึ้นมาเป็นเครื่องปฏิบัติ
คำว่า มรรค แปลว่าหนทาง หมายถึง ทางเดินของใจ ทางเดินของใจที่จะเข้าไปสู่ภายใน จน
กระทั่งหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย โดยอาศัยศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเครื่องกลั่นกรองใจ ให้สะอาด
22 DOU บ ท ที่ 2 ประเภท และ ระดั บ ข อ ง สมาธิ