ความสุขที่แท้จริงจากสมาธิ MD 101 สมาธิ 1  หน้า 86
หน้าที่ 86 / 117

สรุปเนื้อหา

ความสุขที่แท้จริงคือความสุขที่เกิดจากการทำสมาธิที่นำเราสู่ความสุขตลอดเวลาที่ไม่ขึ้นกับสถานการณ์แทนที่จะเป็นเพียงชั่วคราว ซึ่งการหยุดใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเข้าถึงโลกส่วนตัวและพบกับแหล่งกำเนิดแห่งความสุขที่มีอยู่ในตัวเรา ความสุขที่เกิดจากการหยุดนิ่งนั้นมีความลุ่มลึกและสามารถนำเราไปสู่การรู้จักนิพพานอันเป็นบรมสุข นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวันและเติมเต็มชีวิตด้วยความสุขและความพอใจที่แท้จริง หากใครยอมปล่อยใจให้ไหลลงไปในกระแสแห่งความสว่างที่ศูนย์กลางกายจะพบกับความสุขที่ไม่มีขอบเขต และยังมีภูมิปัญญาที่มีความรู้คู่ความสุขอยู่ตลอดเวลา

หัวข้อประเด็น

-ความสุขที่แท้จริง
-ความหมายของสมาธิ
-การหยุดใจเพื่อความสุข
-การค้นหานิพพาน
-ความสุขในปัจจุบัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ความสุขที่แท้จริงคือ การหลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข นั่ง นอน ยืน เดิน ก็เป็นสุข เป็นสุขอยู่ตลอด เวลา ไม่เลือกสภาวะเวลาและสถานที่ ความสุขเช่นนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างปรารถนา สมาธิเป็นสิ่งที่นำมนุษย์เข้าสู่ความสุขที่แท้จริงนี้ได้เป็นความสุขที่ต่อเนื่องกันทุกอิริยาบถทุกกิจกรรม เพราะเมื่อใจของใครสามารถเข้าสู่ภายใน เข้าไปสนิทกับจุดศูนย์กลางกาย ผู้นั้นจะได้พบกับโลกส่วนตัว พบความอัศจรรย์ พบแหล่งกำเนิดแห่งความสุขที่มนุษย์ทั้งมวลปรารถนา เป็นแหล่งแห่งความสุขที่มีอยู่ ในตัวของเรา เป็นความสุขที่แตกต่างไปจากความสุขธรรมดาที่พบอยู่ในชีวิตประจำวัน ในเวลานั้น ผู้ที่มีใจหยุดได้ จะรู้ได้ทันทีว่าความสุขที่ตนเคยพบอยู่ทุกวันก่อนหน้านี้เป็นเพียง ความสนุกสนาน เพลิดเพลินกันชั่วคราวเท่านั้น เกิดขึ้นชั่วครู่แล้วก็ดับหายไป เป็นความสุขเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถครอบครองได้ ซ้ำยังมีความทุกข์เจือปนอยู่ ความสุขเหล่านั้น แตกต่างจากความสุขภายใน ที่เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ แจ่มใสเจิดจ้าอยู่ตลอด เวลาให้ทั้งความสุขและปัญญาโดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยจากผู้ใดนอกจากใจที่หยุดแล้วของตัวเอง เมื่อใดใจหยุด เมื่อนั้นจะได้คำตอบให้ตัวเองว่า ได้พบสิ่งที่แสวงหามาตลอดชีวิตแล้ว เป็น ความสุขที่แท้จริง ที่ไม่รู้จักเบื่อและสามารถสุขได้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนการเปิดเถาปิ่นโตเข้าไปเป็นชั้นๆ เมื่อใดเข้าถึงดวงธรรมภายใน จะรู้ด้วยตัวเองว่า ความรู้จริงภายในนั้นกว้างใหญ่ ไม่มีขอบเขต เป็นความรู้คู่ความสุข เต็มไปด้วยภูมิปัญญา เป็นสิ่งที่ค้นหาได้ด้วยใจอันสว่างไสว ชีวิตเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ปลอดภัย และมีความพอใจที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องแสวงหาที่ไหนอีกต่อไป นอกจากปล่อยใจให้ไหลลงไปใน กระแสแห่งความสว่างไสวตรงศูนย์กลางกายเท่านั้น ถ้าจะแยกความสุขที่ได้รับจากสมาธิตามกาลเวลาที่ส่งผลอีกนัยหนึ่ง จะสามารถแยกได้เป็น 2 ประการ คือ สุขในปัจจุบัน คือความสุขที่ได้จากใจหยุดนิ่งในปัจจุบัน หรือสุขที่ได้จากฌานหรือสุขที่ได้จากการ เข้าถึงพระธรรมกายในขณะที่ปฏิบัติธรรม เป็นสุขทันตาเห็นที่เราเริ่มต้นปล่อยใจให้ผ่อนคลายจากเรื่องราว ที่วุ่นวายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จากความเครียดที่เกาะกินใจ เมื่อใจเริ่มหยุด ความสุขก็จะเกิดขึ้นจากตรงนี้ และเมื่อได้ปฏิบัติต่อไป ความสุขจากสมาธินั้นจะลุ่มลึกไปตามลำดับจากสุขน้อยไปสู่สุขที่ยิ่งๆ ขึ้นไป จนถึงสุขอย่างยิ่งคือพระนิพพานอันเป็นบรมสุข ดั่งคำพุทธพจน์ที่ว่า “นิพพานํ ปรม์ สุข” 1 นิพพานเป็นสุข อย่างยิ่ง ความสุขเหล่านี้เราหาพบได้จากการหยุดใจ ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงพระอรหัตซึ่งจะเหนือจากสิ่งที่เรา หาได้จากการกิน ดื่ม พูด คิด จากรูป รส กลิ่นและเสียงโดยทั่วไป อันเป็นเพียงความเพลินให้ลืมทุกข์ชั่วคราว ซึ่งความสุขจากการดื่มกินเมื่อเทียบสุขที่เกิดจากการหยุดนิ่ง ก็เปรียบเสมือนเศษของความสุขเท่านั้น ท่านจึงได้กล่าวเอาไว้ว่า “นตฺถิ สนฺติปร์ สุข” สุขยิ่งกว่าหยุดนิ่งไม่มี นี้เป็นสุขที่ได้ในปัจจุบัน 2 มาคัณฑิยสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 20 ข้อ 287 หน้า 496. - ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องเด็กหญิงแห่งตระกูลคนใดคนหนึ่ง, มก. เล่ม 42 ข้อ 25 หน้า 371 บ ท ที่ 6 ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง สมาธิ ใน พระ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 73
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More