การทำสมาธิและสติสัมปชัญญะในพระพุทธศาสนา MD 101 สมาธิ 1  หน้า 88
หน้าที่ 88 / 117

สรุปเนื้อหา

การทำสมาธิเป็นวิธีการเพื่อพัฒนาสติสัมปชัญญะให้มั่นคง ช่วยควบคุมความคิดและอารมณ์ไม่ให้หลงระเริงในโลกแห่งอารมณ์ การฝึกสมาธิทำให้เข้าใจและเห็นคุณค่าของความคิด ส่งผลให้จิตใจกระจ่าง เป็นอิสระจากกิเลส สร้างปัญญาที่เข้มแข็งในการแก้ปัญหาต่างๆ ช่วยให้มีสุขภาวะที่ดี พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งอย่างมีสติ.

หัวข้อประเด็น

-การพัฒนาสติสัมปชัญญะ
-การฝึกสมาธิ
-ประโยชน์ของการทำสมาธิ
-ความสัมพันธ์ระหว่างสติและจิต
-การเข้าใจธรรมชาติของจิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไปบนท้องฟ้ากำลังของแสงไฟไปเท่าใดเขาก็จะเห็นเพียงเท่านั้น ผิดกับดวงตาของผู้มีรู้มีญาณที่ สามารถเห็นในสิ่งที่ตามนุษย์ไปไม่ถึงได้ สิ่งเหล่านี้จะพิสูจน์ได้ก็ต่อเมื่อได้มาลองปฏิบัติธรรมในแนวทางการ ปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนา ดังนี้ 3. มีสติสัมปชัญญะ การทำสมาธิก่อให้เกิดการมีสติสัมปชัญญะที่ดีขึ้น ซึ่งพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ" ได้อธิบายไว้ สติ คือความระลึกนึกได้ถึงความผิดชอบชั่วดี เป็นสิ่งกระตุ้นเตือน ให้คิดพูดทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ไม่ลืมตัว ไม่เผลอตัว ใช้ปัญญาพิจารณา ใคร่ครวญสิ่งต่างๆ ได้ ธรรมชาติของจิตมีการนึกคิดตลอดเวลาการนึกคิดนี้ถ้าไม่มีสติกำกับก็จะกลายเป็นความคิดฟุ้งซ่าน ไปตามอารมณ์ต่างๆ ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่ถ้ามีสติกำกับแล้ว จะทำให้ไม่เผลอ ควบคุมความนึกคิดได้ ไม่ปล่อยใจให้เลื่อนลอยไป ไม่ปล่อยอารมณ์ให้เป็นไปตามสิ่งที่มากระทบ การทำสมาธิก็คือการทำให้สติมั่นคง ไม่วอกแวก คนที่ทำสมาธิเนืองๆ ใจของเขาจะอยู่กับตัว ไม่วอกแวก เขาจะเป็นคนไม่ทำอะไรอย่างขาดสติ แบบหลงๆ ลืมๆ ใจของเขาจะอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เราจะ เห็นว่า คนที่ทำสมาธิดีจะเป็นคนที่คุยกันได้รู้เรื่อง และใจของเขาจะจดจ่อในเรื่องที่ทำเสมอ ดังต่อไปนี้ การฝึกสมาธิเป็นการฝึกสติโดยตรงให้ใจตั้งมั่น และรู้ตัวในทุกอิริยาบถที่เคลื่อนไหวซึ่งจะให้อานิสงส์ 1. ควบคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในภาวะที่เราต้องการ โดยการตรวจตราความคิด เลือกรับสิ่ง ที่ต้องการไว้ กันสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป ตรึงกระแสความคิดให้เข้าที่ เช่น จะดูหนังสือก็สนใจคิดติดตามไป ตลอด ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่คิดเรื่องอื่น 2. ทำให้ร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาพเป็นตัวของตัวเอง ไม่เป็นทาสของอารมณ์ต่างๆ เช่น ความโกรธเคือง ความลุ่มหลงมัวเมา จึงมีความโปร่งเบา ผ่อนคลาย เป็นสุขโดยสภาพของมันเอง พร้อมที่จะ เผชิญความเป็นไปต่างๆ และจัดการกับสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องเหมาะสม 3. ทำให้ความคิดและการรับรู้ขยายวงกว้างออกไปได้โดยไม่มีสิ้นสุด เพราะไม่ถูกบีบคั้นด้วย กิเลสต่างๆ จึงทำให้ความคิดเป็นอิสระมีพลัง เพราะมีสติควบคุม เสมือนเรือที่มีหางเสือควบคุมอย่างดี ย่อมสามารถแล่นตรงไปในทิศทางที่ต้องการได้โดยไม่วกวน 4. ทำให้การพิจารณาสืบค้นด้วยปัญญาดำเนินไปได้เต็มที่ เพราะมีความคิดที่เป็นระเบียบ และมีใจ ซึ่งมีพลังเข้มแข็ง จึงเป็นการเสริมสร้างปัญญาให้บริบูรณ์ หน้า 185. 1 พระสมชาย ฐานวุฑโฒ, มงคลชีวิต ฉบับธรรมทายาท, (กรุงเทพมหานคร : บริษัท ฐานการพิมพ์ จำกัด, 2542), บ ท ที่ 6 ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ส ม า ธิ ใน พระ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 75
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More