ข้อพึงตระหนักในการศึกษาบทฝึกสมาธิ MD 101 สมาธิ 1  หน้า 12
หน้าที่ 12 / 117

สรุปเนื้อหา

ในการศึกษาบทฝึกสมาธินั้น นักศึกษาควรเข้าใจว่าผลลัพธ์ที่ได้รับจากการฝึกจะขึ้นอยู่กับความพร้อมและสภาพจิตใจของแต่ละบุคคล สมาธิเป็นการศึกษาและประสบการณ์ของใจ การฝึกสมาธิจะได้ผลเมื่อดำเนินการอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี แม้ว่าจะมีทฤษฎีกำหนดไว้ชัดเจน ผลที่ได้จะไม่สามารถระบุเวลาได้ชัดเจนเพราะแต่ละคนมีพื้นฐานและสภาพจิตใจที่แตกต่างกัน แต่เมื่อมีการฝึกและทำอย่างต่อเนื่อง ผลที่ได้รับจะค่อยๆ ดีขึ้น ประโยชน์ของสมาธิสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่อดีตและเป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่จำกัดอายุและเชื้อชาติ

หัวข้อประเด็น

-การทำสมาธิ
-ความพร้อมของใจ
-ประสบการณ์การเรียนรู้
-ความสำคัญของการฝึกสม่ำเสมอ
-บทเรียนการทำสมาธิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ข้อพึงตระหนักในการศึกษาบทฝึกสมาธิ ในการศึกษาใดๆ ผู้ศึกษาย่อมปรารถนาผลเยี่ยมจากบทเรียนของการศึกษานั้นๆ เช่นเดียวกัน ผู้ศึกษา การทำสมาธิย่อมปรารถนาที่จะได้รับผลเช่นนั้นเหมือนกัน หากสมาธิเป็นรูปแบบของการศึกษาที่ไม่เหมือน วิชาการด้านอื่น แม้จะมีทฤษฎี มีบทฝึกหรือมีข้อกำหนดในการปฏิบัติไว้อย่างชัดแจ้ง แต่ก็มิได้หมายความ ว่าผู้ปฏิบัติตามจะได้ผลตรงตามประสงค์ในทันที ทั้งนี้เพราะสมาธิเป็นการศึกษาในเรื่องของใจและมีใจเป็น อุปกรณ์เดียวเท่านั้นในการลงสู่ภาคปฏิบัติ ดังนั้น ก่อนจะเข้าสู่การศึกษาสมาธิในบทต่อไป จึงใคร่ขอให้นักศึกษาตระหนักในลักษณะเฉพาะ ของการศึกษาการฝึกสมาธินี้ให้เข้าใจเสียก่อน ดังต่อไปนี้ แม้จะมีทฤษฎีกำหนดชัดเจน แต่เพราะเราใช้ใจ ใช้ความรู้สึกเป็นตัวศึกษา ผลที่ได้จึงเป็นการต่อเนื่อง มาจากสภาพความพร้อมของใจของผู้ศึกษาเป็นเบื้องต้น ทำให้นักศึกษาสองคนแม้อ่านหรือศึกษาข้อมูลไป พร้อมๆ กัน แต่ความรู้สึกหรือการทำได้กลับไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เพราะความแตกต่างกันในเรื่องของพื้นฐาน ความพร้อมของใจ ทฤษฎีกำหนดให้ได้แค่วิธีการ แต่กระบวนการนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลที่มีตัวแปรมากมาย อาทิ อารมณ์ ความเครียด ความพร้อมและสุขภาพ ที่ทำให้ผลที่ได้หรือสมควรจะได้แตกต่างกันออกไป ไม่ สามารถให้คำตอบหรือกำหนดลงชัดเจนว่า ผู้ศึกษาจะทำสมาธิได้ตามผลอันควรจะได้ เช่น ความสว่าง ความ สงบ ความเบาสบาย ในระยะเวลาเท่าใด กี่วัน แต่ตรงกันข้ามกลับยืนยันและรับรองได้ว่า ถ้าฝึกถูกต้องตามวิธีที่กำหนดให้แล้วได้ผลแน่นอน เพียง แต่ผลที่ได้จะอยู่ในสภาพของการค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ได้ผลทีละนิดทีละน้อย สำคัญคือ สมาธิเป็นเรื่อง แปลก เมื่อใดที่ลงมือฝึก เมื่อนั้นจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในด้านดี ซึ่งเป็นทางมาของข้อสรุปที่ว่า สมาธิ ในทุกๆ ระดับ สามารถให้ความสุขได้ทั้งสิ้นแม้เพียงระดับพื้นฐาน สมาธิเป็นสิ่งที่ทำได้ ฝึกได้ ไม่จำกัดชนชาติ และความเชื่อ เพียงแต่ควรเริ่มต้นตั้งแต่อายุพ้น 8 หรือ 10 ปี ขึ้นไป สมาธิเป็นบทฝึกที่ต้องทำด้วยความพร้อม การบังคับหรือใช้ความพยายาม เฉกเช่น การเรียน วิชาการด้านอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับการศึกษาสมาธิ สำคัญคือเมื่อรู้วิธีการแล้วต้องทำบ่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำสม่ำเสมอจึงจะได้ผล และเนื่องจากสมาธิเป็นวิชาที่ว่าด้วยความรู้สึก คือ ประสบการณ์ของใจ สมาธิจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำเมื่อใดก็ได้เมื่อใจอยากจะทำ เพราะมนุษย์ไม่ว่าจะ เคลื่อนที่ไปที่ไหนๆ ย่อมมีใจอยู่กับตัว DOU (11)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More