ประเภทและระดับของสมาธิในพระพุทธศาสนา MD 101 สมาธิ 1  หน้า 38
หน้าที่ 38 / 117

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเสนอเกี่ยวกับประเภทและระดับของสมาธิในพระพุทธศาสนา โดยจำแนกระดับสมาธิออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ขณิกสมาธิ ซึ่งเป็นการสงบชั่วขณะ, อุปจารสมาธิ สามารถสงบได้เป็นเวลานานกว่า และอัปปนาสมาธิ ซึ่งเป็นระดับที่ใจสงบอย่างแท้จริงและถึงฌาน การฝึกสมาธิอย่างถูกต้องจะทำให้เกิดความสุขและช่วยนำไปสู่ทางพ้นทุกข์ ทั้งยังช่วยในการระงับอารมณ์และพัฒนาคุณภาพจิตใจให้เข้มแข็งและมั่นคง ในการฝึกสมาธิผู้ฝึกต้องตั้งใจให้ใจอยู่ที่ศูนย์กลางกายเพื่อปรับสภาพจิตใจให้สงบมากที่สุด การสรุปนี้มาจากกิจกรรมที่ผู้เรียนได้ศึกษาและทำแบบประเมินในบทที่ 2 ของการฝึกสมาธิ

หัวข้อประเด็น

-ประเภทสมาธิ
-ระดับสมาธิ
-การฝึกสมาธิ
-ประโยชน์ของสมาธิ
-อารมณ์และจิตใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พยาบาท กรณีเช่นนี้ในทางพระพุทธศาสนาถือว่าใจเป็นสมาธินอกลู่นอกทาง หรือที่เรียกว่ามิจฉาสมาธิ เพราะใจยังมีความหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งที่เป็นอกุศล มิจฉาสมาธินี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรสนใจ และไม่ควรฝึกอย่างเด็ดขาดเพราะมีแต่โทษฝ่ายเดียว 2.2 ระดับของสมาธิ จากการทำสมาธิ ผู้ฝึกจะพบกับประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการฝึก โดยสามารถจำแนกระดับ ของสมาธิได้เป็น 3 ระดับ คือ 2.2.1 ขณิกสมาธิ คือ อาการที่ใจสงบนิ่งอยู่กับอารมณ์ชั่วขณะหนึ่ง เช่น 5-10 วินาที แล้วใจจะ ค่อยๆ คิดฟุ้งซ่านออกไป อาการเหมือนช้างปรบหู ถ้าได้มีสติก็ดึงใจกลับมาใหม่ ค่อยๆ ประคอง อย่าใช้กำลัง ทำอย่างต่อเนื่องก็จะได้ขั้นต่อไป 2.2.2 อุปจารสมาธิ ใจสงบหยุดนิ่งได้นานกว่าขั้นแรก คือ อาจเป็นกำหนดเวลา 5-10 นาที หรือ นานกว่านั้นก็ได้ แต่ไม่ถึงขั้นฌาน ยังไม่ดิ่งลงไปแท้ เป็นแต่สมาธิ ที่เกือบจะแน่วแน่ 2.2.3 อัปปนาสมาธิ ใจสงบหยุดนิ่งนานตามที่เราต้องการ เป็นขั้นที่แน่วแน่ ถึงฌาน ดิ่งลงไป สุขุมกว่าอุปจารสมาธิ และมีระดับขั้นที่ยิ่งขึ้นไปเป็นลำดับๆ ดังนั้น สามารถสรุปได้ว่าการฝึกสมาธิเป็นการฝึกที่จิตใจ เป็นการทำใจให้สงบ ตั้งมั่น แต่ใจจะ ตั้งมั่นได้นั้น จะต้องกำหนดทำสมาธิให้ใจตั้งอยู่ ณ ที่ตั้งของใจที่จะทำให้ใจตั้งมั่น และเกิดความมั่นคงมากที่สุด นั่นก็คือศูนย์กลางกายนั่นเอง เมื่อฝึกอย่างถูกวิธีแล้ว ย่อมจะทำให้ผู้ฝึกพบกับประสบการณ์ภายในที่ดี ทำให้มีความสุข และย่อมสามารถนำไปสู่ทางพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้จะต้องตระหนักว่า การฝึกสมาธิ ที่จะเป็นสัมมาสมาธินั้น มุ่งเพื่อให้ใจสงบ หยุดฟุ้งซ่าน ไม่ขุ่นมัว สามารถระงับอารมณ์ตนเองได้ เกิดความ เย็นกายเย็นใจ เพื่อให้เกิดสติ มีใจตั้งมั่น เข้มแข็งไม่หวั่นไหวง่าย เกิดความเชื่อมั่นตนเองในทางที่ถูก เพื่อกำจัดกิเลสในใจ คือ โมหะ และอวิชชาอันเป็นบ่อเกิดของกิเลสทั้งหลายให้หมดไป กิจกรรม หลังจากนักศึกษาได้ศึกษา บทที่ 2 ประเภทและระดับของสมาธิ จบโดยสมบูรณ์แล้ว โปรดทำแบบประเมินตนเองหลังเรียนบทที่ 2 และกิจกรรม 1, 2, 3 ในแบบฝึกปฏิบัติบทที่ 2 แล้วจึงศึกษาบทที่ 3 ต่อไป อรรถกถาขุททกนิกาย มหานิทเทส, สัทธัมมปัชโชติกา, มก. เล่ม 65 หน้า 303. บทที่ 2 ประเภท และ ระดั บ ข อ ง สมาธิ DOU 25
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More