อภิญญา 6 และผลของการทำสมาธิในพระพุทธศาสนา MD 101 สมาธิ 1  หน้า 91
หน้าที่ 91 / 117

สรุปเนื้อหา

ในบทความนี้จะกล่าวถึงอภิญญา 6 ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นความรู้ที่ผลงจากการทำสมาธิ โดยมีอิทธิวิธีหลายประการ รวมถึงการฟังเสียงทิพย์ การรู้ใจของผู้อื่น และความสามารถในการระลึกชาติ บทเรียนจากการทำสมาธิช่วยให้จิตใจบริสุทธิ์และเข้าถึงฤทธิ์ทางใจเพื่อพัฒนาตนเองอย่างยิ่ง จากคำสอนของพระภาวนาวิริยคุณและการศึกษาจากพระสูตรที่เกี่ยวข้อง มีเหล่านี้เป็นผลของการฝึกฝนจิตใจและสมาธิในชีวิตประจำวัน อันนำไปสู่การพัฒนาจิตที่สูงส่งยิ่ง.

หัวข้อประเด็น

-อภิญญา 6
-สมาธิในพระพุทธศาสนา
-ผลของการทำสมาธิ
-พลังทางใจ
-การพัฒนาจิตใจ
-การฝึกสมาธิในชีวิตประจำวัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ใน สามัญญผลสูตร เราจะรู้ว่า พระพุทธองค์ทรงสอนให้คนฝึกสมาธิให้จิตมีพลัง จนสามารถที่จะ มีฤทธิ์ทางใจ เหาะเหินเดินอากาศได้ และสามารถแสดงฤทธิ์อื่นได้มากมาย ด้วยพลังทางใจที่เกิดขึ้นจาก การทำสมาธิอย่างถูกวิธี อภิญญา 6 เป็นความรู้ยิ่งในพระพุทธศาสนา 6 ประการ โดยเฉพาะประการที่ 6 จะไม่มีปรากฏ อยู่ในลัทธิอื่น นอกจากพระพุทธศาสนา อภิญญา 6 ประการ เป็นความรู้ที่เกิดจากพลังใจที่สูงส่ง ที่เป็น ผลพลอยได้จากการทำสมาธิในระดับสูง ท่านเปรียบเสมือน “การซื้อสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วได้ของแถม เพิ่มมาอีก” ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะพิเศษที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาคุณภาพจิตใจของมนุษย์ให้บริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้นไป อภิญญา ทั้ง 6 ประการนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้หลายแห่ง แต่ในที่นี้จะได้นำเอาเนื้อหา ในส่วนที่พระพุทธองค์ตรัสให้แนวทางแก่พระวัจฉะ ถึงผลของการทำสมาธิที่จะเจริญตามลำดับขั้นของ ความบริสุทธิ์ของใจดังต่อไปนี้คือ ประการที่ 1 เมื่อใจบริสุทธิ์ถึงขั้นหนึ่งจะบรรลุอิทธิวิธีหลายประการ คือคนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝากำแพงภูเขาไปก็ได้ ไปไม่ติดขัดดุจไป ในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงแม้ในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะ ไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจ ทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ ประการที่ 2 จะฟังเสียงทั้งสองคือเสียงทิพย์และเสียงของมนุษย์ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ด้วยหูทิพย์ อันบริสุทธิ์ ที่เกินกว่าหูของมนุษย์จะฟังได้ ประการที่ 3 จะกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วย คือ จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะ รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะ รู้ว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ จิตมีโมหะ รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะ รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ จิตหดหู รู้ว่าจิตหดหู่หรือจิตฟุ้งซ่าน รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน จิตเป็นใหญ่ รู้ว่าจิตเป็นใหญ่ หรือจิตไม่ใหญ่ รู้ว่าจิตไม่เป็นใหญ่ จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า รู้ว่าจิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า หรือจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตเป็นสมาธิ รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ หรือจิตไม่เป็นสมาธิ รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ จิตหลุดพ้น รู้ว่าจิตหลุดพ้น หรือจิตไม่หลุดพ้น รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้น ประการที่ 4 จะระลึกชาติก่อนได้มาก คือ ระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง - สามัญญผลสูตร, ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค, มก. เล่ม 11 ข้อ 131-134 หน้า 326-328. 2 พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตตชีโว), พระแท้, พิมพ์ครั้งที่ 5, (กรุงเทพมหานคร : บริษัท ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จํากัด (มหาชน), 2545), หน้า 210. 3 มหาวัจฉโคตตสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 20 ข้อ 261-266 หน้า 464-466. 78 DOU บ ท ที่ 6 ป ร ะ โ ย ช น ข อ ง ส ม า ชิ ใน พระ พุ ท ธ ศ า ส น า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More