การฝึกสมาธิแบบทิเบตและเซน MD 101 สมาธิ 1  หน้า 45
หน้าที่ 45 / 117

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้กล่าวถึงการฝึกสมาธิแบบทิเบตและเซน โดยเริ่มจากความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการกำหนดลมหายใจและการภาวนา มีการเปรียบเทียบระหว่างสองสำนักคือ รินไซเซนและโซโตะเซนในญี่ปุ่น วิธีปฏิบัติสำหรับแต่ละสาย นอกจากนี้ยังพูดถึงการฝึกสมาธิในวัฒนธรรมตะวันตกที่ประยุกต์มาใช้ ถือได้ว่าเป็นการนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่สามารถเสริมสร้างจิตใจในยุคปัจจุบันได้อย่างดี.

หัวข้อประเด็น

-การฝึกสมาธิทิเบต
-การภาวนาในพุทธศาสนา
-ฝึกความสงบ
-สมาธิแบบเซน
-วิธีปฏิบัติเซน
-โกอานในรินไซเซน
-โซโตะเซน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

1. การพักผ่อน 2. การกำหนดลมหายใจ 3. การฝึกความสงบ 4. การภาวนา 5. การเพ่งกสิณ กล่าวโดยทั่วไปได้ว่า การฝึกสมาธิแบบทิเบต เป็นการฝึกโดยเริ่มต้นจากความผ่อนคลายทั้ง ร่างกายและจิตใจ แล้วค่อยฝึกลมหายใจให้ยาวและลึก พร้อมกับคำภาวนา เมื่อใจสงบดีแล้วก็มาฝึกเพ่ง กสิณกันต่อ ซึ่งกสิณที่ชาวทิเบตนิยมทำกันมากก็คือ กสิณแสงสว่าง และการเพ่งลูกแก้ว โดยมุ่งให้เกิด อำนาจทางจิตมี ตาทิพย์ เป็นต้น การฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนาแบบมหายาน สมาธิแบบเซนในปัจจุบัน สมาธิแบบเซนในปัจจุบัน เป็นวิธีปฏิบัติที่นิยมในพระพุทธศาสนานิกายเซนในประเทศญี่ปุ่น มีวิธีปฏิบัติที่สำคัญ อยู่ 2 สาย สายแรกคือ รินไซเซน (Rinzai Zen) มีปริศนาธรรมเป็นหัวใจของการปฏิบัติ ส่วนสายที่สองคือ โซโตะเซน (Soto Zen) ใช้อีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า ชิคานทาซา เป็นหัวใจของการปฏิบัติ รินไซเซนในปัจจุบันใช้โกอานเป็นหัวใจของการปฏิบัติ ซึ่งการปฏิบัตินั้นเมื่อนักศึกษาเข้าไปขอ กรรมฐานกับอาจารย์แล้ว อาจารย์ก็จะให้โกอานข้อที่หนึ่งซึ่งก็คือ ให้ภาวนาคำว่า “มู” จนกว่าจะหาคำตอบได้ พอตอบได้แล้ว อาจารย์ก็จะให้โกอานข้อที่ 2 เราตอบได้ก็ให้ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ หมดโกอานในหนังสือ “มูมอนคาน” แล้วถือว่าจบหลักสูตร ถือได้ว่ารู้ธรรมะขั้นลึกซึ้ง ซึ่งลักษณะการทำ ภาวนาแบบนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะหาคำตอบจากการภาวนาก็ตาม การนั่งนั้นเขาก็นั่งนิ่ง หลับตา ภาวนา ดูลมหายใจ และในการดูลมหายใจนั้นเขาก็กำกับคำภาวนาด้วย นอกจากนี้ยังมีบางสำนัก คือ “เรียวโคอิน” ที่อาจารย์โคโบริ โรชิ สอนชาวต่างประเทศ ได้ ประยุกต์ ให้เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตก คือ ขณะที่อาจารย์เซนคนอื่นสอนให้ภาวนาคำว่า “มู” ท่านโกโบริ ก็สอนให้ชาวตะวันตกภาวนาว่า “one” ทำภาวนาอย่างนี้จนความรู้สึกนึกคิดเป็นอย่างเดียวกับคำภาวนา ส่วนสายที่ 2 คือ โซโตะเซน ใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป คือ เขาให้นั่งสมาธิ นั่งนิ่งๆ แต่ไม่หลับตา ให้ลืมตา และไม่ต้องภาวนา ไม่ต้องดูลมหายใจ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นั่งเฉยๆ แล้วให้รู้สึกตัว เช่น ในขณะ 1 ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์, เซนกับสังคมญี่ปุ่น, (กาญจนบุรี : ถ้ำแก่นจันทน์, 2531), หน้า 42-44 32 DOU บ ท ที่ 3 รู ป แ บ บ ข อ ง ก า ร ฝึ ก ส ม า ธิ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More