ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 161
“อรูปภพ” ก็ยังไม่พ้นความกำหนัดยินดีในอรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา ยังฟุ้งซ่าน ยัง
ไม่รู้จริง ยังสงสัยอยู่
ซึ่งกามได้
“ที่วัดปากน้ำนี่นะ มีธรรมกาย สูงกว่าฌานนั่นอีก โอย นั่นสู้ไม่ได้ ไกล
กว่าฌานนั่นอีก เขามีธรรมกายกัน ถ้ามีความกำหนัดยินดีเวลาใด แผลบเข้า
ธรรมกายไป ความกำหนัดยินดีทำอะไรไม่ได้เลย ล้อมันเล่นเสียก็ได้ มันทำอะไร
ไม่ได้ ที่เราเป็นผู้ครองเรือนน่ะ ความกำหนัดยินดีมันบังคับ เหมือนกับเด็กๆ
ตามชอบใจมัน จะทำอะไรก็ทำตามชอบใจของมัน.. เราเข้าธรรมกายเสีย ไม่ออก
จากธรรมกาย ความกำหนัดยินดีที่มันบังคับนั่นหายแวบไปแล้ว เหมือนไฟจุ่มน้ำ”
กามภพ รูปภพ อรูปภพ เหล่านี้ ก็ยังไม่พ้นความกำหนัดยินดี ในรูปฌาน หรืออรูปฌานอยู่
เมื่อเข้าถึงธรรมกายเป็นชั้น ๆ จนถึงกายธรรมอรหัต ชั้นที่ ๑๘ จึงถึงวิราคธรรม ก้าวล่วงพ้น
๕. อสุมิมานสุส วินโย ฯ น่าเสียซึ่งอัสมิมานะ
อัสมิมานะ “อัสมิ” แปลว่า “มีอยู่” คนมีอัสมิมานะ คือ คนที่คิดว่าเราก็เป็นหนึ่งเหมือนกัน
เรามีเนื้อมีตัว มีความสามารถ มีอิทธิพล มีกำลังเหนือกว่า ถ้ามีอัสมิมานะจะไม่กลัวใคร เชิดตัวทีเดียว
อัสมิมานะถึงขั้นทำโลกให้เดือดร้อน เพราะทำให้รู้สึกไม่กลัวใครทั้งโลก อยู่ด้วยกันก็จะทะเลาะกัน
ตลอดไป เพราะถือว่าเราก็เป็นหนึ่ง
“โลกที่เดือดร้อนอยู่ ก็เพราะอัสมิมานะเหล่านี้ ไม่ยอมอยู่ใต้กัน จะชำแรก
กันอยู่ท่าเดียวละ หญิงก็ดีอยู่หมู่เดียวกัน ก็ชำแรกเหนือกันอยู่ร่ำไป ภิกษุ สามเณร
อุบาสก ชำแรกเหนือกันอยู่ร่ำไป เพราะถือว่าเราก็คนหนึ่ง”
พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ จึงรู้เห็นว่าอัสมิมานะเป็นตัวสำคัญ จึงยกขึ้นมาเป็นหัวข้อหนึ่งของ
ธรรมะบทนี้ เมื่อถอนอัสมิมานะได้ “หญิงก็เป็นเจ้าหญิง ชายก็เป็นเจ้าชาย ภิกษุก็เป็นเจ้าภิกษุ เณรก็
เป็น เจ้าเณร”
ประพฤติตามธรรมทั้ง ๕ ข้อนี้ เอต์ เว ปรม สุข ฯ นี้แหละเป็นสุขอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ดำเนินมาอย่างนี้ ทำอย่างนี้จึงได้รับความสุข
“เราต้องการความสุขนัก แต่หาความสุขในความทุกข์... หาความสุขเป็น
อย่างไรละ หาเงินให้มากๆ เข้า แต่พอได้เงินมากเข้า เป็นอย่างไรละวะ เดือดร้อน
เป็นจ้าละหวั่นเทียว ต้องรักษาเงินทองเหล่านั้น.....ถ้าว่าในป่าในดอนเป็นอย่างไร
หามาได้สักแสนสักล้าน มนุษย์มันก็รู้กันทีเดียว ก็คุมพวกปล้นฆ่าทีเดียว.....อ้าว
เงินทองเป็นทุกข์เสียแล้ว....เอ้า ยกแผ่นดินให้ปกครองเสียทีเดียว....เดี๋ยวนี้มันขึ้น
นั่งบนหลังราชสีห์แล้ว จะลงมันก็กัดตาย ก็จำเป็นต้องขี่มันไปอย่างนี้เอง นั่น
เหตุเป็นที่ตั้งของความทุกข์ทั้งนั้น”
พระสิทธัตถะสละราชสมบัติได้เป็นพระพุทธเจ้า ได้พบตัวยอดสุข เพราะประกอบธรรมทั้ง ๕
ข้อนี้