ข้อความต้นฉบับในหน้า
162 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ
๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๗
นโม.....
เย ธมมา เหตุปฺปภวา.....
พระคาถานี้ เป็นธรรมข้อใหญ่ข้อหนึ่งในพระพุทธศาสนา ตามพระบาลีว่า
ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุของธรรมเหล่านั้น
และความดับเหตุของธรรมเหล่านั้น
เย ธมฺมา
ท่านได้วางหลักให้เรา โดยยก “เบญจขันธ์” มี “อวิชชา” เป็นปัจจัย
“เหตุ” มีฝ่ายชั่วและดี ฝ่ายละ ๓ คือ โลภเหตุ โทสเหตุ โมหเหตุ
อโลภเหตุ อโทสเหตุ อโมหเหตุ
“เบญจขันธ์” คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยมี “อวิชชา” คือ ความรู้ไม่จริงเป็น
ปัจจัยให้เกิด คือ (ปฏิจจสมุปบาท ๑๒)
อวิชชา
สังขาร
เป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร
เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ (ความรู้)
วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป (ยึดติดรูป)
นามรูป
สฬายตนะ
ผัสสะ
เวทนา
ตัณหา
อุปาทาน
ภพ
เป็นปัจจัยให้เกิดสฬายตนะ (นามรูป รวมกับอายตนะเข้าประกอบ)
เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ
เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา
เป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา อยากได้ดิ้นรนในกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
เป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน (ความยึดถือ)
เป็นปัจจัยให้เกิดภพ ยึดกามภพ รูปภพ อรูปภพ
เป็นปัจจัยให้เกิดชาติ เกิดเป็นมนุษย์ หรือเดรัจฉาน หรือในกำเนิดทั้งสี่
ชาติ (การเกิด) เป็นปัจจัยให้เกิดชรา, มรณะ
อวิชชา จึงเป็นทั้งเหตุและปัจจัยให้เกิดทั้งสิ้น
เมื่อมีเกิด ก็มีดับ จะดับก็ต้องดับเป็นลำดับไป จึงจะหมดชาติหมดภพ ทั้งสากลโลก เริ่มต้น
ดับตั้งแต่อวิชชา “อวิชชาไม่ดับ สังขารก็ดับไม่ได้ สังขารไม่ดับ วิญญาณก็ดับไม่ได้.... ภพไม่ดับ
ชาติก็ดับไม่ได้”
เรื่องเกิดดับ พระปัญจวัคคีย์ ได้ฟังพระปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตรของพระบรมศาสดา
รับรองตามพระบาลีว่า
วิรช์ วีตมล์ ธมฺมจกฺขุ ฯ
ความเห็นธรรม อันปราศจากธุลีมลทิน ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่ผู้
มีอายุชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ