ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 181
“ผู้แสวงหาบุญต้องฉลาดนะ ต้องให้เห็นบุญนะ ถ้าไม่เห็นบุญแล้วเราจะรู้ว่าได้บุญอย่างไร
กันละ ก็เบื่อกันละซิ ไม่อยากแสวงหาบุญละซิ”
หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
- ถ้าหาเงินได้ ใช้เงินเป็น ก็ไม่เป็นบ่าวทาสเงิน เช่น นายเล็ก อยู่บ้านไผ่ อ.สองพี่น้อง เมื่อ
ตั้งตัวกินแต่ต้มยำน้ำราดข้าว เพราะประหยัด ถ้าหามาใช้หมด แก่เฒ่าก็หยุดทำงานไม่ได้ เรียกว่า
ใช้เงินตาย
ถ้าใช้เงินเป็น ก็หมั่นหาเงิน ให้เขากู้ดอกไม่แพง แต่รับจำนำยึดเครื่องกู้ให้เป็นหลักฐาน
หรือเลี้ยงลูกให้จบมหาวิทยาลัย ต่อไปเขาก็หาใช้เรา บุญของเราจึงเป็นหลัก อย่าบนบานศาลเจ้า แม้
พระสิทธัตถะ เมื่อผจญมารตอนใกล้ตรัสรู้ ท่านก็นึกถึงบุญบารมีที่สั่งสมมา
รอยใจไว้
วันนี้เรานึกถึงบุญที่ทำไว้ ใจจรดตรงดวงบุญกลมใส นึกว่าบุญเราได้ตรงนั้น แม้ไม่เห็น ก็จำ
พอนึกถึงบุญเช่นนั้นใจก็ดูด บุญบังคับให้ผลมาก เหมือนหว่านแคตำลึง ทำบุญขึ้นมันก็ แตก
ยอดมากขึ้น แตกเป็นสี่ห้ายอด บุญก็เช่นกัน หนักเข้าเป็นเจ้าเงินนายเงิน
ถ้าใช้บุญไม่เป็น ได้บุญแล้ว ถ้ากระทบกระเทือนสิ่งที่ไม่ชอบใจ ก็ไปด่าเขา ไม่เอาใจจรดที่บุญ
เสียแล้ว เลยเอาบาปมาทับถมหมด
อานิสงส์ของสังฆทานมีมากมาย พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งตรัสเรื่องนี้เรื่องเดียว ไม่หมดจนตลอด
ชีวิต การให้เป็นสังฆทานถือเป็นอายุพระศาสนา ให้แล้วไม่เบื่อ ไม่สะดุดใจ เป็นของสงฆ์ สงฆ์
เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เลือกให้องค์ใดองค์หนึ่ง ถือเป็นสังฆทานแท้ๆ ทรงรับสั่งว่า บุญกุศลยิ่งใหญ่ไพศาล
พระศาสดาถือเป็นหลัก ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าแม่น้าปชาบดีทีเดียว