ความสำคัญของความสามัคคีในพระธรรมเทศนา : หน้า 40/43

192 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา การแตกความสามัคคี เป็นกาลกิณีของบ้าน หากมีในหมู่ใด ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้ครองเรือน ก็ต้องทะเลาะกันจนบ้านร้าง “ถ้าบ้านไหนสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีผู้หลักผู้ใหญ่เกรงกันอยู่ ไม่เป็นไร บ้าน นี้ยังเจริญอยู่ ให้จำหลักอย่างนี้นะ วัดก็เหมือนกัน จะไปอยู่วัดใดวัดหนึ่ง ถ้าวัด นั้นไม่สามัคคี อย่าเข้าไปนะ อย่าไป ถ้าไปเป็นได้รับทุกข์ ถ้าสามัคคีกันอยู่ พร้อม เพรียงกันอยู่ละก็ เข้าไปเถอะ เป็นสุขทีเดียว” พระองค์จึงตรัสว่า “สุขา สงฆ์สุส สามคฺคี” ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข เมื่อสาวกพระบรมศาสดาได้บรรลุอรหัตแล้ว พระอรหัตท่านก็ปรองดองกัน อยู่ในหมู่พระอรหัต พระอนาคา พระสกทาคา พระโสดา ท่านก็ปรองดองอยู่ในมรรคผลของพระองค์ ท่านไม่เถียง ไม่ แก่งแย่งกัน มีความเห็นร่วมกันเสมอกันหมด พระพุทธเจ้าจึงได้ทรงรับสั่งว่านี่แหละเป็นสาวก พวก ของพระตถาคตเจ้า พวกที่ยังแก่งแย่งไม่ใช่พวกของพระตถาคต ๔. ความเพียรเครื่องยังกิเลสให้เร่าร้อน เมื่อมีความพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็ช่วยกันประพฤติทำลายกิเลส เพียรทำตั้งแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริสุทธิ์เหมือนกัน เมื่อรักความบริสุทธิ์เหมือนกัน ต่างก็พยายามทำตนให้บริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้น ไม่แก่งแย่งกัน “ดังอุบาสกอุบาสิกาในวัดเช่นนี้ เขาทำธรรมกายกันให้มีให้เป็นขึ้น ทำศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะกัน โน่นไปเอาเจ้าทรงผีสิงมาเล่นอีกแล้ว เอาเจ้าทรงผีสิงมาใส่ในหมู่เข้า แล้วไปบนเจ้าบนผีเข้าอีกแล้ว เอาอีกแล้ว พวก นี้แหละพวกแก่งแย่งละ ความเห็นแตกต่างออกไปแล้ว จะทำลายหมู่สามัคคีให้ ทะลายไปแล้ว เอาเรื่องผีเรื่องเจ้าเข้ามาอีกแล้ว ก็นี่คนนอกเรื่อง มันคนของมาร เขาส่งมาในหมู่ ไม่ให้ความพร้อมเพรียงเกิดขึ้น....อย่างนี้เป็นทุกข์” “ไม่ใช่เป็นทุกข์แต่เท่านั้น นั่นเขาทำลายทางมรรคผลกัน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ เอ้า..ไพล่ไปขอหวยขอโปกันเข้าแล้ว จะเอาเบอร์หนึ่ง สักทีเถอะ” “ทีนี้พวกนั่งสมาธิทำทางมรรคผล ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เลยไปมองดู ล็อต เตอรี่เข้าแล้ว อ้ายนี่เอาอีกแล้ว เดือดร้อนอีกแล้ว จะทําลายสามัคคีแล้ว พวกนี้พญามารขวางเข้ามา”