ข้อความต้นฉบับในหน้า
176
สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
๕๓
ภัตตานุโมทนากถา
(อานิสงส์การถวายสังฆทาน )
๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๗
นโม...
อปปมาโท อมต ปท...
หลวงพ่อวัดปากน้ำ แสดงภัตตานุโมทนากถา เนื่องในโอกาสที่เจ้าอาวาสวัดจันทร์ปะขาว
พร้อมทั้งคณะสงฆ์ อุบาสกอุบาสิกา มาถวายผ้าป่า ณ วัดปากน้ำ
ผ้าไตรจีวร เรียกว่า “ผ้าป่า” มีกิ่งไม้เอามาแขวนคล้องไว้ และอาราธนาเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ เป็นผู้ชัก ชักแล้วแจกพระภิกษุสามเณร เรียกว่า ทอดกับเจ้าอาวาสแล้วถูกทั้งวัด
ผ้าเป็นวัตถุธรรมดา เมื่อย้อมแล้วเรียก “ผ้าย้อมฝาด” เจ้าของมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
น้อมมาถวายพระสงฆ์ ถวายแล้วเป็นกาก เจ้าของได้เนื้อไป บุญกุศลติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่
ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์ ดวงโตแค่ไหนตามแต่ศรัทธาตน
“ที่เจ้าของให้นะเป็นกาก เจ้าของนั้นได้เนื้อไปเสียแล้ว บุญกุศลติดอยู่ศูนย์
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์ ดวงโตเท่าไหนแล้วแต่ศรัทธาของ
ตน นั่นเจ้าของกลั่นเอาเนื้อเสียแล้ว เอาเปลือกให้แก่ภิกษุ ถ้าภิกษุโง่ไม่ฉลาด
ทันเจ้าของ ก็ไปเก็บเอาใส่ตู้ห้องไว้ แมลงสาบหนูกัดเสียหายไป ถ้าไม่ฉลาดพอ
ถ้าฉลาดพอ เมื่อเจ้าของเขาสละเช่นนั้นแล้ว เมื่อเก็บก็เอาไว้แจกพระภิกษุสามเณร
อัดเอาบุญเสียเหมือนกัน กากนั้นให้ไป ถวายไป แต่บุญเอาเสียอีกชั้นหนึ่ง นี่เรียก
ว่าฉลาด ได้สองสามชั้นนั่นแน่”
“ถ้าสมภารประพฤติได้ดังนี้อยู่วัดไหน วัดนั้นก็เจริญละ ภิกษุสามเณร อุ่น
หนาฝาคั่ง เหมือนกับพ่อกับแม่ มีอะไรแจกให้ทั้งนั้น”
ชาวบ้านเห็นอย่างนี้ก็ยิ่งเลื่อมใส ทำบุญเพิ่มอีก เขากลัวอย่างเดียว คือให้ไปแล้วเอาไปใช้ใน
ทางเสื่อมเสีย จึงไม่ค่อยไว้ใจสมภารหนุ่ม
“แต่ว่าวัดปากน้ำนะสมภารแก่แล้ว อายุ ๗๑ แล้วนะ....ต้องการบุญกุศลเท่า
นั้นแหละ อยู่ที่ไหนก็ให้ทานบริจาคทานไป ไม่ทำอะไรก็สอนหนังสือหนังหาไป
สงเคราะห์อนุเคราะห์กุลบุตรไปอย่างนี้แหละ มาอยู่วัดปากน้ำนี่ไม่ใช่พอดีพอร้าย
พอมาอยู่วัดปากน้ำเท่านั้นแหละ เขาไม่ยอมกันทั้งบ้านทั้งเมือง พระในวัดก็ไม่ยอม
ทั้งนั้น ผู้มาอยู่ ผู้เทศน์นี่แหละ พุทโธ่เอ๊ย ที่พึ่งของตัวไม่รู้จัก จะไปกีดกันผู้เป็น
ที่พึ่งของตัวให้ไปเสีย แล้วจะไปพึ่งอะไร