ข้อความต้นฉบับในหน้า
145)ww5:SSSNINNU1
มีพุทธพจน์บทหนึ่งได้กล่าวว่า
0
“ผู้ฉลาดในบุญ ควรทำทานด้วยจิตเลื่อมใสในเนื้อนาดี ทานที่
บุคคลให้ดีแล้ว ในทักขิไณยบุคคลทั้งหลาย ย่อมมีผลไพบูลย์ เทวดาย่อม
เลื่อมใส และอนุโมทนาด้วย”
การอยู่ร่วมกันในโลกนี้ เราจำเป็นจะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ชีวิตประจำวันของเราทุกคน ต่างต้องเกี่ยวข้อง
กับการให้ทานตลอดเวลา บางครั้งเราก็เป็นผู้ให้ บางครั้งเราก็เป็นผู้รับ และ
บางครั้งเราก็เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในเวลาเดียวกัน
ถ้าปราศจากการให้ เช่น พ่อแม่ไม่ให้การเลี้ยงดูลูก สามีภรรยาไม่
แบ่งปันกัน ครูบาอาจารย์ไม่ให้การอบรมสั่งสอนศิษย์ และมนุษย์ไม่รู้จักการ
ให้อภัยกัน โลกก็คงจะเกิดความสับสนวุ่นวายไม่น้อย
เพราะฉะนั้น การให้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โลกเรายังคงดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้
ก็เพราะการให้ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเคยกล่าวว่า
“พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้ด้วยการให้ การให้ทานเป็นหลักสำคัญ
ที่จะให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด ก็อย่าลืมการให้ทาน”
การให้เป็นประเพณีของคนฉลาด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ
ดังนั้นผู้มีปัญญาจะเลือกการทำทานที่ให้ผลมาก เป็นมหาทานบารมี จึงต้อง
รู้จักวิธีการให้ทานที่ถูกต้อง และถูกเนื้อนาบุญ
การให้ทานที่จะให้ได้บุญมากนั้น ทั้งผู้ให้และผู้รับต้องมีความบริสุทธิ์
และวัตถุทานก็ต้องบริสุทธิ์ด้วย คือได้มาด้วยความชอบธรรม ยิ่งถ้าผู้รับเป็น
เนื้อนาบุญอันประเสริฐ ได้เข้าถึงพระรัตนตรัย
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ
พระรัตนตรัยภายใน ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมเป็นอสงไขยอัปมาณัง คือมาก
จนกระทั่งไม่สามารถจะคำนวณได้ แม้ว่าผู้รับยังไม่หมดกิเลส แต่ถ้าตั้งใจปฏิบัติ
เพื่อให้พ้นจากอาสวะกิเลส คือมุ่งกำจัดราคะ โทสะ โมหะ ให้หมดสิ้นไป
อานิสงส์ย่อมจะบังเกิดขึ้นอย่างไม่มีประมาณ เหมือนอย่างนายบุญชาวนา ได้
เปลี่ยนฐานะจากนายบุญชาวนาเป็นนายบุญเศรษฐี
ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เกิดจากการถวายทานนี้
ที่เรียกว่าปุณณเศรษฐี