ข้อความต้นฉบับในหน้า
38 5 5 ม พ 5 : 5 5 5 1 1 1 1 1 1
0
ปกติของผู้ที่ตั้งใจทำแต่ความดี ทำแต่บุญกุศลอยู่เป็นนิตย์ ย่อมจะมี
จิตใจที่เบิกบานแจ่มใส เพราะบุญจะช่วยกลั่นใจของเขาให้สะอาด บริสุทธิ์
ผ่องใสอยู่เสมอ จะมีความบันเทิงใจว่า เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ด้วย
การสร้างความดีให้แก่ตนเอง
ผู้ที่สั่งสมบุญไว้มาก ย่อมจะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา แม้แต่ชาว
สวรรค์ก็อยากเข้ามาเป็นสหายด้วย เขาจะคอยอนุโมทนาเมื่อผู้นั้นได้ทำความดี
และจะรอคอยการกลับมาสู่วิมานของผู้มีบุญนั้น เหมือนกำลังรอคอยหมู่ญาติ
ผู้เป็นที่รักที่จากไปนานแสนนาน ให้กลับมาสู่เรือนของตน
เมื่อถึงเวลาสุดท้ายของชีวิต ภาพแห่งการทำความดีทั้งหมดที่ผ่านมา
จะปรากฏขึ้นในใจ ฉายภาพให้เห็น เหมือนการกรอภาพวีดีโอกลับ เห็นแล้วก็
จะบันเทิงใจยิ่งขึ้น เพราะได้เห็นแต่ภาพดีๆ ภาพแห่งการสร้างบารมีผุดเกิดขึ้นมา
และมั่นใจว่าเมื่อละโลกไปแล้ว ก็จะไปสู่สุคติภพ ไปเสวยทิพยสมบัติในโลกสวรรค์
ไปเป็นสหายแห่งเทวดา
พอละอัตภาพของมนุษย์ ก็จะได้ร่างกายใหม่อันเป็นทิพย์ ซึ่งดีกว่า
ประณีตกว่ามนุษย์หลายเท่า ไปเป็นเทพบุตรเทพธิดา แล้วก็จะตรวจดูว่า
ทิพยสมบัติ อันประณีตสวยงามขนาดนี้ เราได้มาอย่างไร เมื่อเห็นอดีตชาติ
ที่ผ่านมาในสมัยเป็นมนุษย์ ว่าเราได้สั่งสมบุญเอาไว้อย่างดีแล้ว ได้สร้างบารมี
อย่างเต็มกำลัง ก็จะเกิดความปลื้มปีติและภาคภูมิใจ เพราะได้ละจากโลกนี้
ไปอย่างผู้มีชัยชนะ เหมือนละจากภาชนะดิน แล้วไปเสวยภาชนะทองคำ
ดังเรื่องของธัมมิกอุบาสก (ทำ-มิ-กะ-)
ธัมมิกอุบาสกเป็นชาวเมืองสาวัตถี ผู้มีศีลมีธรรมอันงาม และเป็นผู้
ยินดีในการฟังธรรม ภรรยาของเขาและ บุตร ๗ คน ธิดาอีก ๗ คน ก็เป็นผู้
ยินดีในธรรมเช่นเดียวกัน ต่อมาเมื่อใกล้จะละโลก นอนอยู่บนเตียงคนไข้
เขารู้สึกอยากฟังธรรมเป็นอย่างยิ่ง จึงได้นิมนต์พระมาแสดงธรรมที่บ้าน เมื่อ
พระมาแล้ว ก็นั่งบนอาสนะล้อมรอบเตียงของเขา
เขาเห็นพระก็ดีใจ แล้วบอกว่า “กระผมเป็นคนทุพพลภาพ อาจจะไม่
ได้เห็นพระคุณเจ้าอีกแล้ว ขอพระคุณเจ้าทั้งหลาย ได้โปรดสาธยายพระสูตร
บทใดบทหนึ่ง ให้กระผมฟังด้วยเถิด”