ข้อความต้นฉบับในหน้า
24 5 5 ม พ 5 : 5 5 5 ม เ ท ศ น า
ชีวิตที่ไม่หวั่นไหว
AD CE
..
บัดนี้ถึงเวลาธรรมกาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันทรงคุณค่า ที่เราจะได้เจริญ
สมาธิภาวนา เพื่อกลั่นกาย วาจา ใจของเรา ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส
เหมาะสมที่จะรองรับพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของพวกเรา
ทั้งหลาย สิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกยิ่งกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ชีวิตบนโลกนี้ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราหนีไม่พ้นที่จะต้อง
พบกับความไม่แน่นอน บางครั้งก็สมหวัง บางครั้งก็ไม่สมหวังซึ่งเป็นธรรมดา
ของโลก เมื่อมีลาภก็ต้อง มีเสื่อมลาภ มียศก็มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญก็มีนินทา
มีสุขก็มีทุกข์ คละเคล้าปะปนกันไป ความเปลี่ยนแปลงตามธรรมดาของ
โลกนี้ เราเรียกว่า “โลกธรรม” อันเป็นธรรมประจำโลก มีอยู่แล้วในโลกนี้
ตั้งแต่ก่อนเราจะมาเกิด สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่แล้ว หรือแม้เราจะหมดอายุขัย
ละจากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ ไม่ได้หายไปไหน และใครจะถือ
เอาเป็นสิทธิ์เฉพาะตนก็ไม่ได้ เพราะเป็นของสาธารณะสำหรับมนุษย์ทุกคน
ที่เกิดมาในโลก และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ดังนั้น ในสภาวะปัจจุบันนี้ แม้สังคมจะปรวนแปร เศรษฐกิจจะ
แปรปรวนอย่างไรก็ตาม อย่าได้หวั่นไหวกัน ให้ตั้งใจทำความดีต่อไปเถิด
หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ถ้าเราประกอบเหตุดี ผลที่ออกมาก็ย่อม
จะดีตามไปด้วย
การทำความดีนั้น เราควรเพียรพยายามให้ถึงที่สุด และถ้าหากเรา
เจอปัญหาอะไรที่หนักๆ นั่นแสดงว่าเราใกล้จะพ้นแล้ว ดังคำโบราณที่กล่าว
ว่า “ยิ่งมืดแสดงว่ายิ่งดึก ยิ่งดึกก็ยิ่งใกล้สว่าง” เพราะฉะนั้นให้หมั่นสั่งสม
ความดีกันต่อไป
ต่อจากนี้ไป ขอเรียนเชิญทุกท่านนั่งหลับตาเจริญภาวนา ให้ทุกท่าน
นั่งขัดสมาธิ โดยเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวา
จรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ หลับตาของเราเบาๆ
หลับพอสบายๆ คล้ายกับเรานอนหลับ อย่าไปบีบหัวตา อย่ากดลูกนัยน์ตา