ข้อความต้นฉบับในหน้า
28 5 2 ม พ 5 : 5 5 5 1 1 1 1 1 1
โสดาบัน
เมื่อจบพระธรรมเทศนา อุบาสกทั้ง ๕๐๐ ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระ
ดังนั้นการนินทาหรือสรรเสริญ จึงไม่ใช่ของใหม่ มีมานานแล้ว และ
ก็จะยังคงมีต่อไป หากเราได้พบกับสิ่งเหล่านี้ ก็อย่าได้หวั่นไหวนะจ๊ะ เราจะ
ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ การกระทำของเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับถ้อยคำของใคร
เพราะฉะนั้นจงอย่าได้หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลาย
แล้วทำอย่างไรล่ะ เราจึงจะไม่หวั่นไหว
ก็ต้องหยุดใจให้ได้เสียก่อน โดยนำใจมาตั้งไว้ให้ถูกที่ตั้ง คือที่ศูนย์
กลางกายฐานที่ ๗ เอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ ที่ตรงนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะนั่ง
จะนอน จะยืน จะเดิน กิน ดื่ม พูด คิด หยุดนิ่ง ลิ้มรส เหยียดแขนคู่แขน
หรือทำภารกิจอันใดก็ตาม ให้เอาใจมาหยุดนิ่ง ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
พอทำใจหยุดได้เท่านั้น โลกธรรมทั้ง ๔ ย่อมไม่สามารถทำให้ใจกระทบ
กระเทือนได้ หรือแม้จะมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็ไม่สามารถแล่นเข้ามาถึงในใจ
ใจเราจะหยุดนิ่งเฉย ไม่เดือดร้อนใจอะไรทั้งนั้น ไม่มีความยินดี
ยินร้ายแล้ว พอใจหยุด โลกธรรมก็ทำอะไรไม่ได้ เราจะเป็นผู้ไม่หวั่นไหว
เหมือนศิลาแท่งทึบ ไม่หวั่นไหวต่อแรงลมที่พัดมาจากทิศทั้ง ๔ ใครหยุดใจได้
อย่างนี้ ถือว่าได้บรรลุความเป็นมงคลสูงสุด เข้าถึงเนื้อแท้แห่งมงคลแล้ว เกิด
สิริมงคลอย่างแท้จริง
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านสอนไว้ว่า
“ใครทำหยุดได้ เป็นตัวมงคล เป็นเนื้อหนังของมงคล แต่ถ้าทำ
หยุดไม่ได้ ก็เป็นอัปมงคล”
ท่านสอนลึกซึ้งทีเดียวนะว่า สิริมงคลทั้งหลาย จะเริ่มเกิดขึ้นที่จิตใจก่อน
แล้วเกิดตอนใจหยุด เพราะถ้าเราควบคุมใจตัวเองได้ รักษาใจให้สงบ ให้
หยุดนิ่งได้ ไม่ว่าเราจะพบปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็ตาม เราจะไม่หวั่นไหวใน
ทุกสิ่ง ทำใจหยุดได้เวลาใด เวลานั้นก็ถือว่าเป็นมงคล เป็นเวลาฤกษ์งามยามดี
มีมหาโชคมหาลาภ