ข้อความต้นฉบับในหน้า
พ ร ะ ร า ย ก า ว น า ร ส ท 3 ( 1 ล ว ง พ่ อ ธั ม ม ม โ ย ) 15
ในอดีต มีชาวนาครอบครัวหนึ่ง สามีออกไปไถนา ทุกๆ วันภรรยาจะ
นำอาหารไปให้ที่ท้องนา วันหนึ่งในระหว่างที่ภรรยากำลังเดินทางนำอาหาร
ไปให้สามี ได้พบกับพระสารีบุตร ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติมาใหม่ๆ เมื่อ
ภรรยานายบุญเห็นเข้า ก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใส อยากจะทำบุญกับพระเถระ
นางคิดว่า “บางวันเราอยากจะทำทาน แต่ก็ไม่มีไทยธรรม เพราะ
ต้องหาเช้ากินค่ำ บางวันมีไทยธรรมแล้ว แต่ก็ไม่มีพระมาโปรด ตอนนี้
ไทยธรรมของเราก็มีพร้อมแล้ว พระก็มาโปรดแล้ว เราควรทำบุญวันนี้แหละ”
ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระเถระ นางจึงน้อมถวายอาหารมื้อนั้นแด่ท่าน
ส่วนพระสารีบุตร ท่านรู้เห็นในญาณทัสสนะว่า โยมคนนี้จะเป็นเจ้า
ของบุญ เป็นผู้ที่มีลาภทางบุญจึงได้มาโปรด เมื่อผู้ให้กับผู้รับตรงกัน ผู้ให้ก็
ให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ผู้รับคือพระสารีบุตร ธาตุธรรมท่านบริสุทธิ์ล้วนๆ เพราะ
เข้านิโรธสมาบัติมาตลอด ๗ วัน ธรรมกายใสสว่างเต็มที่
พอภรรยาของนายบุญชาวนานำข้าวใส่บาตร
ด้วยความเลื่อมใส
บุญก็เกิดขึ้นทันที กระแสธารแห่งบุญไหลเข้ามาสู่ศูนย์กลางกายของภรรยา
นายบุญอย่างไม่มีประมาณ
พระเถระท่านให้พรสั้นๆ ว่า “ขอให้สมปรารถนาในทุกเรื่อง” แค่นั้น
นางก็ชื่นใจ ปลื้มปีติเบิกบานใจมาก ไม่กังวลว่าสามีจะหงุดหงิดหรือเปล่า
แล้วได้กลับบ้านไปเตรียมอาหารมาใหม่ เพื่อจะนำไปให้สามีที่อยู่กลางทุ่งนา
สามีกำลังเหน็ดเหนื่อยและกำลังหิวมาก
เมื่อภรรยาเห็นสามีกำลังเหนื่อยก็ส่งยิ้มไปก่อน และพูดด้วยถ้อยคำที่
ไพเราะ หาน้ำหาท่าให้ดื่ม เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ พอร่างกายสบาย จิตใจสบาย
ดีแล้ว
นางจึงพูดว่า “วันนี้ที่มาส่งอาหารช้า เพราะเผอิญเจอพระในระหว่างทาง
ท่านมีผิวพรรณวรรณะที่เปล่งปลั่ง ผ่องใสมาก เห็นแล้วอยากทำบุญ น้องก็
เลยเอาอาหารใส่บาตรทำบุญไป พี่ตั้งจิตอนุโมทนาด้วยเถอะนะ”
นายบุญก็ใจบุญสมชื่อ แม้จะเหน็ดเหนื่อยมา พอได้ยินข่าวบุญก็
อนุโมทนา บอกว่า “ดีแล้ว น้องเอ๋ย ที่ได้ตักบาตรพระ เพราะเมื่อสักครู่พี่