ข้อความต้นฉบับในหน้า
พ ร ะ ร า ย ก า ว น า ร ส ท 3 ( 1 ล ว ง พ่ อ ธั ม ม ม โ ย ) 39
พระท่านก็ถามว่า “อุบาสก อยากฟังพระสูตรบทไหนล่ะ”
เขาก็ตอบว่า “อยากฟังบทสติปัฏฐานสูตร”
พระจึงเริ่มสวดสาธยายเรื่องสติปัฏฐานสูตร
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
การพิจารณาตามเห็นกายในกาย เวทนา ในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม
แล้วก็ชี้บอกหนทางสายกลาง อันเป็นทางสายเอก ซึ่งเรียกว่า “เอกายนมรรค”
เป็นเส้นทางแห่งความบริสุทธิ์ไปสู่พระนิพพาน
ในขณะที่พระท่านกำลังสวดสาธยายอยู่นั้น ได้มีชาวสวรรค์ทั้ง 5 ชั้น
ประดับเครื่องทรงอันเป็นทิพย์ พร้อมด้วยราชรถมารออยู่
เทวดาที่ยืนอยู่
ตรงราชรถของชาวสวรรค์ทั้ง 5 ชั้น ต่างก็เชื้อเชิญธัมมิกอุบาสกให้ไปเป็นสหาย
ของตน โดยบอกว่า
“ข้าพเจ้าจะนำท่านไปยังเทวโลกชั้นของข้าพเจ้า ท่านจงละภาชนะดิน
แล้วถือเอาภาชนะทองคำเถิด มาอยู่ร่วมกับข้าพเจ้าที่สวรรค์ชั้นนี้เถิด”
ชาวสวรรค์ทุกชั้น ต่างก็เชื้อเชิญธัมมิกอุบาสกให้เป็นสหายในชั้นของตน
คนมีบุญมากก็อย่างนี้แหละ แม้แต่เทวดายังอยากจะเป็นสหายด้วย
อยากอยู่ร่วมกับผู้มีบุญ เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
เทวดา
ฝ่ายอุบาสกซึ่งเป็นผู้เคารพในธรรม เมื่อกำลังฟังธรรมอยู่ ไม่อยากให้
การฟังธรรมหยุดชะงักไป จึงได้กล่าวกับเทวดาทั้งหลายว่า “ขอท่านจงรอ
ก่อนๆ”
พระภิกษุซึ่งกำลังสวดสาธยายธรรมอยู่ เข้าใจว่าอุบาสกให้หยุด จึงได้
หยุดสวด ลุกจากอาสนะแล้วเดินทางกลับวัด
ฝ่ายบุตรและธิดาของเขา นึกว่าพ่อห้ามพระสวดมนต์ ก็รู้สึกเสียใจ
ว่าเมื่อก่อนพ่อของเราเป็นผู้ไม่อิ่มในธรรม แต่ขณะนี้ถูกทุกขเวทนาครอบงำ
จนกระทั่งเพ้อ ห้ามพระสวดมนต์ ต่างก็ร้องไห้เสียใจ
หมดแล้ว”
พอเวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง อุบาสกก็ถามลูกๆ ว่า “พระคุณเจ้าไปไหน