ข้อความต้นฉบับในหน้า
58 5 5 ม พ 5 : 5 5 5 1 1 1 1 1 1 0
อุบาสิกานั้นเกิดความรำคาญ จึงดูไปว่า “เจ้ามารบกวนฉันหลายครั้ง
แล้ว ทำให้ฉันฟังธรรมได้ไม่ต่อเนื่อง โจรจะขนอะไรไป ก็ให้เอาไปตาม
ชอบใจเถิด ฉันจะฟังธรรม” แล้วก็ไล่คนใช้กลับบ้านไป
ฝ่ายหัวหน้าโจร ซึ่งแอบฟังอุบาสิกาอยู่ เกิดความเลื่อมใสในความ
เด็ดเดี่ยว มีใจแน่วแน่ในการฟังธรรมของนางอย่างท่วมท้น จึงคิดว่า “ถ้า
หากพวกเราเอาทรัพย์สินของอุบาสิกาผู้มีคุณธรรมสูงอย่างนี้ไป สายฟ้า
คงจะฟาดลงกลางกระหม่อมของเราแน่”
ลูกน้องให้ขนสมบัติเข้าไปเก็บไว้ในบ้านดังเดิม
คิดดังนั้นแล้วจึงรีบกลับไปสั่ง
พวกลูกน้องโจรต่างก็งงไปตามๆ กัน แต่เชื่อในคำสั่งหัวหน้า จึงพา
กันขนสมบัติกลับเข้าไปเก็บ แล้วพวกโจรทั้งหมดก็พากันไปที่วัดด้วย เพื่อดู
ว่าอุบาสิกาฟังธรรมอะไรอยู่ ทำไมนางจึงสามารถสละได้แม้กระทั่งสมบัติ เมื่อ
ไปแล้วก็ตั้งใจนั่งฟังธรรมตลอดคืน จนกระทั่งเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
พอฟ้าสางมหาโจรทั้งหมดได้เข้าถึงไตรสรณคมน์ ขอบวชเป็นพระภิกษุ
ในเช้าวันนั้นเลย ซึ่งภายหลังได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์กันหมด ส่วน
มหาอุบาสิกาได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน
จะเห็นได้ว่า ถ้าเรารักธรรมะจริงๆ รักที่จะเข้าถึงความสุขภายใน
ละก็ แม้จะสูญเสียทรัพย์สมบัติไปเท่าไร ก็ยอมแลกได้ ไม่คำนึงถึงอุปสรรค
ใดๆ เลย
นี่ถ้าหากมหาอุบาสิกาท่านนี้หยุดฟังธรรมแล้วกลับบ้าน นอกจากจะ
ไม่ได้บรรลุธรรมแล้ว ยังต้องถูกโจรฆ่าอีก ไม่ได้ทั้งโลกียทรัพย์และอริยทรัพย์
แต่เพราะใจปักแน่นแน่วแน่ในการฟังธรรมอันประเสริฐ ไม่ยอมให้เหตุการณ์
ที่มหาโจรปล้นบ้านมาเป็นอุปสรรคเลย
นางยอมที่จะสละทรัพย์ภายนอก เพื่อให้ได้มาซึ่งอริยทรัพย์ภายใน
ทำให้โจรเกิดจิตเลื่อมใส หันมาประพฤติ ปฏิบัติธรรมตามนาง และออกบวช
จนได้บรรลุธรรมไปพร้อมๆ กัน นี่เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า ธรรมะย่อมรักษา
ผู้ประพฤติธรรมเสมอ