ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ๒ : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
30
แหละเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง เป็นนิจจัง เป็นสุขขัง
เป็นอัตตา คงที่เป็นอมตะ การเข้าไปถึงรัตนะทั้งสามนี้ ท่าน
ให้เข้าไปทางสายกลางที่มีอยู่ภายในตัว ด้วยวิธีการทำใจ
ให้หยุดให้นิ่ง พอใจหยุดนิ่งถูกส่วน ก็จะเห็นกายในกายเข้า
ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงกายที่เป็นสรณะ เรียกว่าธรรมกาย
คือกายนั้นเป็นธรรมล้วนๆ มีความบริสุทธิ์ล้วนๆ ไม่มีสิ่งที่
เป็นมลทินเจือปนเลย เหมือนทองคำบริสุทธิ์ที่ไม่มีมลทิน
กายที่เป็นสรณะนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่เรา
เข้าไปให้ถึงท่านเท่านั้น เพราะฉะนั้นมีอยู่คำหนึ่ง ท่านใช้คำ
ว่า “แล่นไป” แล่นไปสู่สรณะทั้งสาม คือไตรสรณาคมน์
ไตร แปลว่า สาม
สรณะ คือ ที่พึ่ง
คมนะ แปลว่า แล่นเข้าไป คือเคลื่อนเข้าไป
ใจแล่นเข้าไปหาที่พึ่งทั้งสามที่เป็นนิจจัง เป็นสุขัง
เป็นอัตตา ที่มีอยู่ในตัวของเรา เป็นตัวตนที่แท้จริง เป็น
เกาะ เป็นที่พึ่งที่แท้จริง พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ใน อัตตทีป
สูตร ว่า
“จงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง สิ่งอื่นไม่ใช่
จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง สิ่งอื่นไม่ใช่