ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิสุทธิวาจา 1
111
60
เป็นหนี้
ปัจจัยสันนิสสิตศีล พิจารณาปัจจัยทั้ง ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
คิลานปัจจัย ไม่บริโภคด้วยตัณหา นี่ก็เป็นศีลอีกอันหนึ่ง
ปัจจัยสันนิสสิตศีลนั้นแหละเป็นข้อสำคัญนัก ถ้าเป็นอิน(อิ-นะ)บริโภค
บริโภคด้วยความเป็นหนี้ ไม่ได้พิจารณาปัจจัยให้เต็มส่วนเต็มที่ในจีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ คิลานปัจจัย แล้วละก็ ได้ชื่อว่าภิกษุบริโภคด้วยความเป็นหนี้
ตายไปจะต้องเป็นวัวให้เขาใช้ เป็นควายให้เขาขี่ เป็นม้าให้เขาขี่ เป็น
ช้างให้เขาขี่ สูงขึ้นไปกว่านั้น ไกลไปกว่านั้น ตายไปเป็นบ่าวเป็นทาสเขา เป็น
มนุษย์มาเป็นบ่าวเป็นทาสเขา มาเป็นคนใช้เขา เขาไม่ใช้ก็อยากให้ใช้นัก ไป
ทำอาสาเขาเฉยเท่านั้นแหละ เพราะเป็นหนี้เขาแล้ว บริโภคด้วยความเป็นหนี้
เข้าแล้ว นี่อย่างนี้เป็นบ่าว
จีวร เมื่อเวลาจับจีวรที่เขาถวายเข้า จีวรนี้สักแต่ว่าเป็นธาตุ เป็น
ปัจจัยสักแต่ว่าธาตุ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเขาเราใดๆ แล้วก็เป็นของว่างเปล่า
ไป จีวรนี้เป็นของไม่เน่าไม่เปื่อยน่าดูน่าชม ไม่สกปรกเปรอะเปื้อนใดๆ เป็น
ของดีมาก พอถูกต้องร่างกายกลายเป็นของเสียหายไปได้ ไม่น่าดูน่าชมไปได้
พิจารณาจีวรอีก จีวรเมื่อเวลาจะนุ่งเข้า ไม่ได้นุ่งเพื่ออื่น นุ่งเพื่อจะป้อง
กันเสียซึ่งกายหนาวแลร้อน เพื่อกันเหลือบยุงตะเข็บ ตะขาบต่างๆ เพื่อจะไม่
ให้กามกำเริบเท่านั้น พิจารณาดังนั้นก็นุ่งห่มไป นุ่งห่มไปแล้วก็พิจารณาแบบเดียว
กันอีก ซ้ำอีก เรียกว่า อภิณหปัจจเวก พิจารณาจีวรนุ่งห่มพร้อมด้วยองค์คุณ
ธาตุปัจจเวก ก็แบบเดียวกัน นั่งนอนเสนาสนะเหล่าบริโภคหยูกยา ก็
พิจารณา ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง ปัจจัยสันนิสสิตศีล ไม่บริสุทธิ์ เป็นอินบริโภค
บริโภคด้วยความเป็นหนี้เขา อย่างนี้ต้องได้รับทนทุกข์ต่างๆ นานา เพราะเหตุ
ว่าเป็นหนี้เขา