ข้อความต้นฉบับในหน้า
80
วิสุทธิวาจา 1
๕๔
ดูหมิ่น
ส่วนเมตตาพรหมวิหาร ให้เลิกดูหมิ่นกันเสีย ไม่ให้ดูหมิ่นอะไรๆ ในที่เขา
หรือในที่ใดๆ ไม่ดูหมิ่นทั้งนั้น ถ้าเลิกดูหมิ่นเสียเช่นนี้นั่นแหละจะกลับเป็น
คนดีกับเขาได้
บางทีดูหมิ่นเขาไม่รู้ตัวว่าดูหมิ่นเขา ดูหมิ่นเป็นอย่างไร? คำดูหมิ่นนะ
เขาเล็กกว่าสู้ไม่ได้ พูดเอาตามชอบใจ ว่าเอาตามชอบใจ ไม่ไพเราะ พูด
อย่างกักขฬะ หยาบช้ากล้าแข็ง บ้างด่าว่าเขาต่างๆ ชอบอกชอบใจ เหล่านี้เรียก
ว่าดูหมิ่นเขาอยู่แล้ว
ถึงเขาจนก็ดูหมิ่น พูดไม่เคารพคารวะในกันและกัน พูดใช้เสียงกระด้าง
ไม่น่าฟัง ถ้อยคำเหล่านั้น ตวาดด้วยประการต่างๆ เหล่านี้ดูหมิ่นเขา
อ้ายลักษณะดูหมิ่นเป็นข้อสำคัญนัก เขาจึงได้ยืนยันไว้ว่า เรือนยอด
ที่จะทำลายลงด้วยไฟไหม้น่ะ เพราะไหม้แต่เรือนย่อยขึ้นไป กระต๊อบกระท่อมที่
ปลูกอยู่ข้างๆ เรือนยอดนั่นแหละ ไหม้เรือนเล็กๆ ขึ้นก่อน แล้วก็ไปไหม้
เรือนยอดนั่นฉันใดก็ดี แง่นี้แหละความร้อนเกิดจากชั้นน้อยขึ้นมาไหม้เรือนยอดได้
เจ้าครองประเทศหรือผู้ครองประเทศจะได้รับความอับปาง เกิดปฏิวัติ
ขึ้นก็เพราะผู้ใหญ่ดูหมิ่นผู้น้อย หรือไม่ฉะนั้นผู้น้อยเมื่อถูกดูหมิ่นดูถูกด้วย
ประการใดประการหนึ่งก็จำเอาไว้ ได้สมัครพรรคพวกมากขึ้นก็ลงโทษผู้ใหญ่
เหมือนในคอมมิวนิสต์บัดนี้ ที่จะเกิดลุกลามกันใหญ่โตเช่นนี้ เพราะผู้ชั้นสูง
ดูหมิ่นผู้ต่ำ คนมั่งมีดูถูกคนจน
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง “กรณียเมตตาสูตร"
๑ มิถุนายน ๒๔๙๗