ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิสุทธิวาจา 1 119
๔๘
นิพพานเป็น-นิพพานตาย
ส่วนนิพพานที่ท่านจำแนกเป็น ๒ ประเภทนั้นคือ สอุปาทิเสสนิพพาน
๑ อนุปาทิเสสนิพพาน ๑ สำหรับพวกทำสมาธิปัจจุบันเรียกกันง่ายๆ อีก
แบบหนึ่งคือ นิพพานเป็น อันตรงกับสอุปาทิเสสนิพพาน และนิพพานตาย อัน
ตรงกับอนุปาทิเสสนิพพาน
นิพพานที่เป็นสถานที่อยู่ของกายธรรมนั้น อยู่ในศูนย์กลางของกายธรรม
นั่นเอง ที่กล่าวนี้หมายความถึงเวลาที่กายมนุษย์ของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์
ยังมีชีวิตอยู่ ใช้กายธรรมเดินสมาบัติ ๗ เที่ยว ตามแบบวิธีเดินสมาบัติที่เคย
กล่าวไว้แล้วนั้น กายธรรมก็จะตกศูนย์เข้าสู่นิพพานที่อยู่ในศูนย์กลางกายธรรม
ที่ซ้อนอยู่ในกลางกายอรูปพรหม-กายรูปพรหม-กายทิพย์ และกายมนุษย์เป็น
ลำดับเช่นนี้ ยังอยู่ในกลางของกายที่ยังหมกมุ่นครองกิเลสอยู่ตามสภาพของ
กายนั้นๆ ความบริสุทธิ์ของนิพพานที่อยู่ในท่ามกลางกิเลสเหล่านี้เองที่เรียกว่า
“สอุปาทิเสสนิพพาน” สภาพของนิพพานนี้ที่มีลักษณะกลมรอบตัวใสบริสุทธิ์ยิ่งนัก
แต่ทว่านิพพานนี้เป็นนิพพานประจำกายของกายธรรม จึงมีพระนิพพานหรือ
พระพุทธเจ้าประทับอยู่เพียงพระองค์เดียว
ความจริงถ้าจะกล่าวตามส่วนและตามลักษณะตลอดจนที่ตั้งแล้ว ก็จะ
เห็นว่า นิพพานเป็นหรือสอุปาทิเสสนิพพานนี้ เป็นที่เร้นอยู่โดยเฉพาะของกาย
ธรรม ในเวลาที่ยังมีขันธ์ปรากฏอยู่ นอกจากนั้น สอุปาทิเสสนิพพานยังเป็นทาง
นำให้เข้าถึง “อนุปาทิเสสนิพพาน” หรือ “นิพพานตาย” อีกด้วย คือเวลาที่
ขันธ์ซึ่งรองรับกายธรรมอยู่นั้นจะสิ้นไป พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ย่อมจะต้องเดิน
สมาบัติทั้ง ๘ และเข้าสู่สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ขณะนี้เองเป็นเวลาที่กายธรรม
เข้าสู่สอุปาทิเสสนิพพาน ทรงดับสัญญาและเวทนาสิ้นแล้ว จึงเดินสมาบัติ
ปฏิโลมอีก
คราวนี้กายธรรมก็จะตกสูญเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ซึ่งมีลักษณะ
รูปพรรณสัณฐานและขนาดดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั่นเอง