ข้อความต้นฉบับในหน้า
58
วิสุทธิวาจา 1
๓๔
เหมือนดวงอาทิตย์
“เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่
พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดมืดเสียได้ ดำรงอยู่เหมือนดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา
กำจัดความมืด ทำอากาศให้สว่างฉะนั้น”
ธรรมทั้งหลายที่ปรากฏแก่พราหมณ์นั้น เราควรจะรู้ธรรมอะไรที่ปรากฏ
แก่พราหมณ์น่ะ? และก็บอกลักษณะท่าทางไว้ให้เสร็จ เสมือนดวงอาทิตย์ขึ้น
ไปแล้วกำจัดความมืดทำอากาศให้สว่าง
นี้เป็นข้อใหญ่ใจความสำคัญนัก จะเอาธรรมตรงไหน? ดวงไหน? ชิ้น
ไหน? อันไหนกัน? ธรรมที่เกิดขึ้นแก่พราหมณ์น่ะ ถ้าว่าไม่รู้จักธรรมดวงนั้นฟัง
ไปเถอะ สัก ๑๐๐ ครั้งก็ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องได้ราวทีเดียว อุทานคาถานี้ลึกซึ้ง
อยู่ไม่ใช่ของง่าย เผอิญจะต้องกล่าวไว้ย่อ ไม่ได้กล่าวพิศดาร เรียกว่า อุทาน
คาถา
ธรรมที่ปรากฏแก่พราหมณ์น่ะ เป็นมนุษย์หญิงก็ดี ชายก็ดี ทั้งคฤหัสถ์
บรรพชิตไม่ว่า ที่ปรากฏอยู่บัดนี้มีธรรมบังเกิดขึ้นกับใจบ้างไหม? ที่ปรากฏอยู่
เสมอน่ะ บางคนมีบางคนก็ไม่มี ที่ไม่มีนั้นเทียบด้วยคนตาบอด ที่ธรรมปรากฏ
ขึ้นแล้วน่ะเทียบด้วยคนตาดี
เรื่องนี้พระองค์ทรงรับสั่งในเรื่องธรรมว่า ทิฏฐธมฺมสุขวิหารี ธรรมเครื่อง
อยู่เป็นสุขในปัจจุบันทันตาเห็น ธรรมที่บังเกิดปรากฏยู่กับตัวน่ะ พวกมีธรรมกาย
มีธรรมปรากฏแก่ตัวเสมอ พวกไม่มีธรรมกายนานๆ จะปรากฏธรรมสักครั้งหนึ่ง
ธรรมที่ปรากฏขึ้นน่ะประจำตัวเชียวนะ ติดอยู่กับใจของบุคคลนั้น สว่างไสว
ถ้าปฏิบัติดีๆ เหมือนดวงอาทิตย์ในกลางวันเชียวนะ แจ่มจ้าอยู่เสมอ แต่ว่าใจ
นั้นต้องจดอยู่กับธรรม
ถ้าว่าใจไม่จดกับธรรม หรือธรรมไม่ติดอยู่กับใจละก็ ความสว่างนั้นก็
หายไปเสีย เหมือนอย่างตามประทีปในเวลากลางวัน ประทีปอย่างย่อมๆ ความ