ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิสุทธิวาจา 1
113
๔๒
หิริโอตตัปปะสัมปันนา
เมื่อไปถึงพุทธรัตนะเข้าแล้ว ไปถึงธรรมรัตนะเข้าแล้ว ไปถึงสังฆ
รัตนะเข้าแล้ว พระพุทธเจ้าอยู่ในสถานที่ใดๆ ไปทูลท่านก็ได้ ไปพูดกับท่านก็ได้
ไปในนิพพานก็ได้ ถ้ามีในนิพพานไปในนิพพานก็ได้ นั่นแน่ะมีรสมีชาติอย่างนี้
ลึกซึ้งอย่างนี้แหละ
ถ้าว่าไม่เข้าถึงพุทธรัตนะเรานิ่งเสีย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสีย นิ่งเสียทำเป็น
ไม่รู้ไม่ชี้เสีย นั่นไม่มีหิริโอตตัปปะซิ ถ้านิ่งเฉยซิ ถ้ามีหิริ-โอตตัปปะจะเอาหน้า
ไปไว้ที่ไหน เขาถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะกัน ถ้ามีหิริโอตตัปปะก็อาย
ตัวเอง ไม่ถึงไม่ยอม นั่งกันหลังหักตายเลย ไม่เอาล่ะ ถ้าไม่ถึงก็ตาย ไม่ได้ก็ตาย
แหล่ทีเดียว เอากันละถึงวาระที่จะต้องขับขันกัน
ถ้าไม่ได้ไม่เห็นไม่เป็นปรากฏช่างเถอะ ถ้าได้เป็นเห็นปรากฏต่อหน้าต่อ
ตา มันจะเป็นตายก็ช่าง ถ้าไม่ได้ก็ตายแหล่ละ เอาล่ะเอาให้ถึงให้ได้ ให้เข้าถึง
พุทธรัตนะเสียได้ละก็ นั่นแหละ ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา
เข้าถึงพระธรรมรัตนะได้ละก็ นั่นแหละไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบ
พระพุทธศาสนา
เข้าถึงพระสังฆรัตนะได้ละก็ นั่นแหละไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบ
พระพุทธศาสนา นี้แหละได้ชื่อว่า หิริโอตตัปปะสัมปันนา ถึงพร้อมแล้วด้วยความ
ละอายุความสะดุ้งกลัว ไม่ถึงละก็ละอายสะดุ้งกลัวนะ
เพราะไม่ได้เกื้อกูลในธรรมอันขาว เกื้อกูลในธรรมดำอยู่ ไม่เกื้อกูลใน
ธรรมอันขาวจึงลงไป เข้าถึงได้แล้ว เป็นแล้วนั่นแหละ เกื้อกูลธรรมอันขาวแท้ๆ
ล่ะ
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง “หิริโอตตัปปะ
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗