ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิสุทธิวาจา 1
97
ად
ไปให้ถึงที่สุด
เมื่อเป็นเช่นนี้ เพราะตัวไม่เป็นอิสระในตัว เพราะตัวไม่เป็นใหญ่ใน
ตัว เพราะตัวไม่รู้จักที่สุดของตัว
นี่มนุษย์โลกขณะนี้เห็นไหมล่ะ ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้น พระพุทธเจ้าพระ
อรหันต์ท่านก็ไปยังไม่ถึงที่สุดเหมือนกัน ถ้าใครไปยังไม่ถึงที่สุดก็ยังไม่ฉลาดเต็มที่
ต่อเมื่อใดไปถึงที่สุดกายของตัวไม่มีสุดต่อไป นั่นฉลาดเต็มที่แล้ว ตัวของตัว
เองเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองได้แล้ว นี่เป็นข้อสำคัญที่สุดนะ
นี่เจอพุทธศาสนานี่เป็นเป้าหมายใจดำ อย่าไปทำเรื่องอื่น อย่าไปหลง
เลอะเทอะ เอ้า....ต่างว่ามีครอบครัวแล้วได้อะไรบ้าง ได้ลูกคนหนึ่ง แล้วเอามา
ทำไมล่ะ เอามาเลี้ยง ลูก ๑๐ คน เอ้า เอาไปไว้เลี้ยงยังไงก็เลี้ยงไป บ่นโอ๊กแล้ว
ได้ลูก ๑๐ คน เอ้า....ได้ ๕๐ คน เอ้า เปะปะไปซี อยากได้ลูกใช่ไหมล่ะ ไม่จริง
เหลว โกงตัวเอง โกงตัวเอง พาให้เลอะเลือน
ไม่เข้าไปค้นกายของตัวให้ถึงที่สุด ไม่ให้ตรวจตัวถึงที่สุด เป็นมนุษย์
กับเขาทั้งที เพราะเชื่อกิเลสเหลวไหล เหล่านี้แหละจึงได้เลอะเลือน
จะครองเรือนไปสักกี่ ๑๐๐ ปีก็ครองไปเถิด มันงานเรื่องของคนอื่นเขา
ทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไป
ทำงานให้พญามารเขาทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้
ให้นึกไว้ในใจว่า ต่อแต่นี้ไปเราจะต้องเข้าให้ถึงที่สุด เข้าไปในกาย
ที่สุดของเราให้ได้ เป็นกายๆ เข้าไป เมื่อเป็นกายๆ เข้าไปแล้ว ถ้าทำเป็นแล้ว
ไม่ใช่เดินท่านี้นะ เดินในไส้ทั้งนั้น ในไส้เห็น ไส้ ไส้คิด ได้รู้ ในกำเนิดดวงธรรม
ที่ทำให้เป็นกายสุดหยาบสุดละเอียด เดินในไส้ (หยุดในหยุด กลางของหยุด
ในหยุดๆๆๆ) ไม่ใช่เดินทางอื่น เดินทางในกลางดวงปฐมมรรค มรรคจิต มรรค
ปัญญา เดินไปในกลางดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ วิมุตติ
ญาณทัสสนะ นั้นเป็นทางเดินของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์