ข้อความต้นฉบับในหน้า
3. พุทธานุสรณ์ที่ละลึกถึง “พระพุทธองค์”
Sakurabe (1976), Harrison (1992), Yamabe (1999) ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเจริญภาวนา “พุทธานุสรณ์” ทางสายบาส แต่เป็นเพียงมุมมองเดิม ๆ กับ “พุทธานุสรณ์” ที่ตรัสละลึกถึง “พระพุทธคุณ” ในสายคำภีร์บาส
จนกระทั่ง Shaw (2006: 116-118), Williams (2009: 209-212) ได้พบข้อมูลที่สนใจ และนำเสนอเกี่ยวกับการเจริญภาวนา “พุทธานุสรณ์” ในอรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอยู่ใน สุฏณฑปฎา (Suttanipāta=Sn) จุดเด่นของการเจริญภาวนา “พุทธานุสรณ์” แบบนี้คือ ทำการตรัสละลึกถึง “พระพุทธองค์” กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นึก “รูป” ของพระพุทธองค์ในการปฏิบัติภาวนา ผู้ปฏิบัติในรูปแบบนี้ คือ พระปิงคะยะ ซึ่งเดิมที่เป็นหนึ่งในค่ายของพราหมณ์พวาริ
ผู้วิจัยได้ค้นคว้าต่อยอดพบว่า ใน Sn 1146 พระปิงคะยะได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพระภัทร, พระภากวรุณ และพระอคีตโคตมะ เมื่อพิจารณาพระกลุ่มนี้พบว่า พระภัทรได้รับการยกย่องให้เป็นองค์ในฝ่าย “สรภทิมุตต” ด้วยร่องรอยนี้เป็นจุดเริ่มต้น ทำให้ผู้วิจัยสนับสนุนว่า พระฝ่าย “สรภทิมุตตะ” และการเจริญภาวนา “พุทธานุสรณ์” แบบตรัสละลึกถึง “พระพุทธองค์” ควรจะมีความสัมพันธ์กัน ในลำดับดดับไปผู้วิจัยขอเรียบเรียงกล่าวถึงพระเกษะและพระเกร
4. สรภทิมุตตะ
เรามาพิจารณาคำว่า “สรภทิมุตตะ” กันก่อนเป็นลำดับแรก ภาษาบาลี คือ คำว่า saddhādhimutta มาจากคำสามคำว่า saddhā (Skt.sraddhā) และ adhimutta (Skt.adhimutka อธิมุตตะ) < ทา ปัจจัย (pp.) ของ adhi √muc หมายถึง มุ่งมั่นในศรัทธา, ตั้งมั่นในศรัทธา, ในลงในศรัทธา สำหรับตัวอย่างการใช้