ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศรัทธา ปิ๋ม มนะ และสติของข้าเจ้าไม่ได้ห่างจากคำสอนของพระโจคมะ 32
[พระโจคมะผู้มีปัญญา ประดุจแผ่นดิน เสด็จไปสู่ที่ใด ๆ
ข้าเจ้าก็อ้อนอ้อม[พระองค์คำนี้เสด็จ] ไปทางนั้น ๆ นั่นแล
32 สำนวนการแปลในอีก ๆ มั้งนี้
1. มธร ศรัทธา ปิ๋ม มนะ และสติของดาวมะ "ย่อนน้อมไป" ในคำสอนของพระพุทธเจ้าสิขิม (ซส. 47/443/965 แปล มธ. 2537; 47/443/ 787 แปล มธ. 2552)
2. มธร ธรรมเหล่านี้คือ ศรัทธา ปิ๋ม มนะ และสติ ย่อนไม่หย่อนไปจากศาสนาของพระโจคมุพุทธัง (ซ.ส. 25/1150/778 แปล มธ.)
3. Norman (2006: 138): My faith and repute, [and] mind, and mindfulness do not go away from the teaching of Gotama.
4. Murakami et al. (1989: 165): 私の信と喜びと意と会はゴータマの教えから離れません。
ประเด็นคือ 1.napenti หรือ namenti 2.me หรือ ime
ในประเด็นแรก มธร แปลจาก namenti ส่วนนี้อธิบายอื่น ๆ แปลจาก napenti สาเหตุฎนี้ับ มธร แปลอย่างนั้น เพราะว่าใช้คำ Se เป็นต้นฉบับ ผู้วิจัยฉันเชื่อว่า "ย่อมอ้อมไป" คือ namenti จาก Vnanu (Skt.Vnam) Caus. (เหตุที่ตามจาก) แต่ใน Nidd II คาตเดี่ยวกัน namenti 'me Gotamasāsanamhā มธร แปลว่า ธรรมเหล่านี้... "ย่อมไม่หย่อนไป" จากศาสนาของพระโจคม (ซ.จ. 67/629/431 แปล มธ. 2552) สาเหตุนี้เนื่องจากคำอธิบายของ Nidd II Se: namenti nagacchanti [? ผู้ฉัน: na gacchanti?] naော်jahanti na vināsenatīti namenti... (ซ.จ. 30/631/303 15-16; cf. มธ. na gacchanti na vijahanti na vināsenatīti namenti... (ซ.จ. 30/ 114/229 6-7 มธร) ทางพระไตรปิฎกฉบับ มธร ใช้คำว่า napentime ในสุดนิดเดียวแต่ใน Nidd II ใช้คำว่า namentime ซึ่งทั้งสองประโยคนี้ใช้การแปลเหมือนกันคือ "ย่อมไม่หย่อนไป"
ฉะนั้น ถ้าจากการอธิบายความของ Nidd II คำว่า “nāpenti” น่าจะมีความหมายใกล้เคียงกับ na gacchanti na vijahanti na vināsenatīti มากกว่า ซึ่งผู้วิจัยฉันเชื่อว่า นิ้อาจจะเกิดจากการสับสนในการอ่านอักษรที่คล้ายกันซึ่ง(ต่อหน้าดังไป)