ข้อความต้นฉบับในหน้า
attadhammani ruttisu patibhāne tath’ eva ca
ñāṇaᾱm mama mahāvīra uppannam tava santike. (Ap II 34.27)
ขอแต่พระมหาวีระ ญาณที่เกี่ยวข้องกับจรรยา ธรรม นิฐิติ และ
ปฏิกิริยาของเมื่อฉันเกิดขึ้นแล้วต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์
จากกถาข้างต้น ผู้วิจัยขอเรียงเรื่องราวการปฏิบัติตามของ
พระลิงคัลมตาเถรี ดังนี้
1. หลังจากฟังคำสอนของพระพุทธอรฺ Einkommen ตนบรรลุโสดา-
ปิติผล และออกบวชเป็นภิกษุอีก
2. พระเถรีได้มีความปรารถนาอย่างมากที่จะเห็นพระพุทธองค์
(buddhadassanālājāsa) ดังนั้น จึงได้เจริญภาวนาโดยการตามตรึก
ระลึกถึง “พระพุทธองค์” (=พุทธานุสรณ์) ในที่สุดก็ได้รับอรหดผล
เพื่อความต้องการเห็นพระพฤกษ์ พระเถรีได้ไปเฝ้าพระองค์ท่านตลอดเวลา
(sabbadā ca vajam’ aham) แต่ประเด็นคือ
“การไปเฝ้าพระองค์ท่าน” หมายความว่าอย่างไร? ไปด้วยกายของ
พระเถรีที่เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ใช่ไหม?
____________________________________________________________________________________
เชิงอรรถ 72 (ต่อ)
แต่ข้อความในพระไตรปิฎกฉบับ มจธ. เป็น sabbasave parinīñaya (ขอป.
33/106/419 มจธ.) ถ้าพิจารณาจากความหมายของฉบับแปล มจจ. ถือเป็นการแปล
มาจากคำว่า parikhīṇa (ถูกทำสิ่งใดโดยรอบแล้ว, ถูกทำสิ่งไปหมดแล้ว
ที่มาจาก pari/vkhi, khi; Skt. pari/vkṣi, khí ใันรูปของ pp.) มากกว่า parinīñaya
(รู้โดยอรฺ, รู้อย่างสิ่งซึ่ง จาก pari/vā, Skt. pari/vṛñśa ใันรูปของ Abs.)
ทางด้าน มจธ.2537 แปลว่า “กำหนดอรฺเอาสะหมั่นแล้ว” (ขอป. 72/174/681
แปล.มจธ.2537) แต่ใน มธ.2555 แปลว่า “อาสะทังบังคลินไปแล้ว” (ขอป. 72/
185/620 แปล.มจธ.2555) ซึ่ง มจธ.2537 จะเปลามับับบ์ Se มากกว่า
มธ.2555
“พุทธานุสรณ์” และ “การนึกพระ” ศึกษาการอ้างอิงของ
พระไตรปิฎก พระเถรี กำหนดมาเกรอ พระภิกษุ