ข้อความต้นฉบับในหน้า
พิจารณาถึงประเด็นนี้กัน
"ผู้ได้เห็นธรรม ผู้ Fundamental เรา(พระพุทธองค์) ผู้ได้เห็นเรา ผู้เห็นเห็นธรรม เพราะว่า ในขณะที่เห็นธรรม ผู้ นั่งมองเห็นเรา, ในขณะที่เห็นเรา ผู้ นั่งมองเห็นธรรม วัสกิ"
คำกล่าวจากข้างต้นนี้มีการกล่าวถึงกันมาก ซึ่งบางครั้งก็มีการเข้าใจไปว่า ผู้ได้ ที่เข้าใจคำสอนก็เปรียบเหมือนเห็นพระพุทธเจ้า(=เรา) Claya กับคำว่า "เรา = พระพุทธ-องค์" เป็นบุคลิอิธิฐานไป และการเห็นก็หมายถึง "ความเข้าใจ"
จากประเด็นดังกล่าวนี้ ผู้จะต้องขอจำนำสิ่งเหล่านี้มาทวนใหม่ และนำข้อมูล ของสายสรภาธิสมุตตะมาพิจารณาประกอบ โดยเรียบเรียงได้ตามประเด็นดังต่อไปนี้
1. คำว่า "เรา=พระพุทธองค์" ในที่นี้
ถ้าพิจารณาเชื่อมการสทนธรรมระหว่างพระพุทธองค์กับพระอรหัต คำว่า "เรา=พระพุทธองค์" ไม่สามารถเป็นพระพุทธองค์ที่มีรูปลักษณ์ในฐานะเป็นบุคคลทาง ประวัติศาสตร์ได้อย่างแน่นอน เพราะรูปายนั้นเป็นของที่แน่นอน, และเมื่อพิจารณา จากภารกิจของพระปิยะและพระสิลกาลามาตรีที่อยู่ในสายสรภาธิสมุตตะแล้ว ด้วยความปรารถนาที่ต้องการ "เห็นพระพุทธองค์" จึงปฏิบัติจากภาวนาสูตรแบบบรรลัย ระลึกถึง "พระพุทธองค์" และในที่สุดท่านนี้ก็สามารถ "เห็นพระพุทธองค์" ได้ ซึ่งเป็นมิติของการปฏิบัติภาวนา ค่ายกับมีการแบ่งระหว่างรูปของพระพุทธองค์ที่อยู่ ในสมาธิ สามารถไปเห็นได้ด้วยการปฏิบัติภาวนา และพระพุทธองค์ที่มีรูปภายใน ฐานะที่เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์
จะนำนี้เราจำพิจารณาจากพระเทระและพระเกรีในสายสรภาธิสมุตตะที่เปรียบ เป็นกระจกสองสะท้อนในภรณ์พระอรหัตผู้ซึ่งเป็นเลิศทางสายสรภาธิสมุตตะ คำว่า "เรา=พระพุทธองค์" ควรจะเป็นพระพุทธองค์ที่สามารถถูก "เห็น" ได้ด้วยการปฏิบัติ