ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดังนั้น เมื่อบวชแล้วก็ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนคำสอนของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าอย่างเดียว ฝึกฝนตัวของเราให้ดี ให้มีประสบการณ์ภายใน แล้วก็
สั่งสอนผู้อื่น ให้ธรรมทาน แบ่งปันความรู้ของเราที่ได้ศึกษามาอย่างดีแล้ว ไป
ให้กับมวลมนุษยชาติ นี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องกระทำกัน เมื่อมาบวชแล้วทำได้อย่างนี้
เราก็จะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่เป็นหนี้ในสิ่งที่บริโภคที่ญาติโยมเขาถวายด้วย
ศรัทธา จะเป็นอาหาร เสนาสนะ ยารักษาโรค เป็นต้น โดยเราจะบริโภคด้วย
ความเป็นนาย เป็นผู้ให้ คือ เป็นแหล่งแห่งบุญที่เราได้เอาบุญไปให้เขา ไม่ใช่ใน
ฐานะที่เราเป็นหนี้
และเมื่อบวชแล้วต้องดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่า ชีวิตสมณะก็คล้าย ๆ
กับเพชรพลอย ยิ่งผ่านกาลเวลา เพชรพลอยก็ยิ่งสุกใส พระบวชไปนาน ๆ บารมี
เพิ่มขึ้น ในแต่ละวันที่ผ่านไป ความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ก็ต้องเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
เพชรพลอยกว่ามันจะสุกใสขึ้น นอกจากผ่านกาลเวลาแล้ว ยังถูกอบด้วยความ
ร้อน แรงกดดัน และสิ่งต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ อะไรต่าง ๆ เหล่านั้นหล่อ
หลอมให้เพชรพลอยสุกใสขึ้นไปเรื่อย ๆ พระก็เหมือนกัน เราก็จะต้องบำเพ็ญ
ตบะให้แก่กล้า จนกระทั่งยังกิเลสให้เร่าร้อนออกไป ยิ่งมีแรงกดแรงดันเท่าไหร่
ก็ยิ่งฝึกฝนอบรมตัวของเราให้เป็นสมณะที่สมบูรณ์ขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งอบยิ่งรมก็
ยิ่งเข้าใกล้ไปสู่นิพพานเรื่อย ๆ ฝึกตัวกันไปนะลูกนะ
(พระราชภาวนาวิสุทธิ์)
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย