ข้อความต้นฉบับในหน้า
เศรษฐีอยากกินขนมเมืองจอผอม
วันหนึ่ง เวลาจวนสว่าง พระศาสดาเสด็จออกจากสมบัติอันประกอบด้วยความกรุณาใหญ่ ทรงตรวจจุดหมู่สัตว์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ที่พอแนะนำในการตรัสรู้ได้ในสกลโลกธาตุ ได้ทรงเห็นอุปนิสัยใสดใสของเศรษฐีพร้อมทั้งภรรยา ซึ่งอยู่ในที่สุดแห่งที่ 55 โยชน์
ก็ในวันก่อนแต่นั้นเศรษฐีจันไปสู่พระราชมนเทียร เพื่อบำรุงพระราชา ทำการบำรุงพระราชาแล้วกลับมาเห็นคนบ้านนอกคนหนึ่งถูกความหัวร้อนงำกำลังกินขนมคุมามา (ขนมเบ่ง) ให้กินความกระหายในขนมนั้นขึ้น ไปสู่เรือนของตนแล้วคิดว่า "ถ้าบอกว่า เราอยากกินขนมเมือง" ไงๆ, คนเป็นอันมากก็จัก (พากัน) อยากกินกับเรา, เมื่อเป็นอย่างนั้น วัดดูเป็นอามมาก มีกะ ข้าวสาร เนยใส น้ำอ้อยเป็นต้น ของเรา ก็จักถึงความหมดไป, เราก็ไม่บอกแก่ใครๆ" ดังนี้แล้วอดกลั้นความอยากเที่ยวไป, เมื่อเวลาล่วงไป, เขายอมเหลืองลงทุกที่มีตัวสะพัง ด้วยสั่นเสี้ยน. แต่แทน ไม่สามารถจะอดกลั้นความอยากไว้ได้เข้าโรงแล้วนอนกอดเตียง. เขาเมื่อต้องความทุกข์อย่างนี้ ก็ยังไม่บอกอะไรๆแก่ใครๆ เพราะกลัวเสียทรัพย์.
๑) สัปปุรสานสูตร
ว่าด้วยทานของสัตบุรุษ ๕ ประการ
สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยครรภ์ ๑ ย่อมให้ทานโดยเคารพ ๑ ย่อมให้ทานโดยกาลอันควร ๑ เป็นผู้มีจิตอันเมตตาให้ทาน ๑ ย่อมให้ทานไม่กระทบตาและผู้อื่น ๑
ครั้งเป็นผู้มีจิตอุทิศอุทิศให้ทานแล้วยังเป็นผู้มีคงมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีจิตอ่อนใไปื่องเป็นผู้บริโภคามคุณ ๕ สูงยิ่งขึ้นในที่สุดท่านนั่นผลิตผล
เล่าเรื่องเศรษฐี อาคารธรรมบท ฉบับพิเศษ