ข้อความต้นฉบับในหน้า
พรามณ์มีฉากทัศนะวิสัชญ์แก้วมนต์
ต่อมาวันหนึ่ง พรามณ์มีฉากทัศนะวิสัชญ์คนหนึ่งว่า“ได้ยินว่่าแก้วมนต์มีค่ามาก อันคุณูปภูมิของพระศาสดา เราจัดลึกแก้วมนต์นั้น” จึงไปสู่วิหารเข้าไปโดยระหว่างมหาชนผูมาแล้วเพื่อจะถวายบังคมพระศาสดา ด้วยอาการแห่งการเข้าไปแห่งพรามณ์นั้นนั่นแหละ คิดว่า “โอโหนอ!พรามณ์ไม่ควรถือเอา”
แม่พรามณ์นั้นวางมือไว้แทบบาทมูลคล้ายะถถวายบังคมพระศาสดา ถือลาย แม่พรามณ์ซ้อนในกลีวผ้า หลักไปแล้ว กามพีไม่อาจจิตให้เลื่อมใสในพรามณ์นั้นได้.
ในกาลอบธรรมกถา กามพินนั้นเข้าไปฟังพระศาสดา ครวณูลว่า “พระเจ้าข้า รัตนะ ๗ ประการอันข้าพระองค์โปรยล้อมรอบพระองค์ถึครั้ง โดยถองแก่เพียงเอา เมื่อตั้งหลายถ่อนอารัตนหลานนั้น นั้นชื่อว่า ความอามตามมิได้แล้วแก้ข้าพระองค์จิตยิ่งเสนอใส่จิ๋นเรือลๆ แต่วันนี้ ข้าพระองค์คิดว่า “โอโหนอ!พรามณ์นี้ ไม่ควรถือเอาแก้วมนต์” เมื่พรามณ์นั้นถือเอาแก้วมิดไปแล้ว จึงไม่อาจจิตให้เลื่อมใสได้”
พระศาสดารงสดับคำของกามพินแล้วตรัสว่า “อุบาสก ท่านไม่อาจให้๓ำของมือของตน ให้เป็นของอันชนเหล่านั้นนำไปไมใฃ่มัีใช่ไหม?” ดังนี้แล้ว ได้ประทานนมัยแล้ว
กามพินดำรงอยู่ในซึ่งที่พระศาสดาประทานแล้ว ถวายบังคมพระศาสดาได้ทำการปรารภว่า“พระเจ้าข้า พระราชา or โจรแม้หลายร้อยชื่อวาสามารถเพื่อจะข่มเหง้พระองค์ ถือเอาเมื่เส้นด้ายแห่งชายผ้าขั้นเป็นของข้าพระองค์ จงอย่า นับแต่วนนี้เป็นต้นไป, แม้ไฟก็อย่าให้ของของข้าพระองค์, แม้น้ำก็อย่าแพ็ด.”
แม้พระศาสดาได้ทรงทำอนุโมทนาแก่กามพินนั้นว่า“ขอความปรารถนา ที่ท่านปรารถนาอย่างนั้น จงสำเร็จ.”
เล่าเรื่องเศรษฐี ๕๗ คาถาธรรมบท ฉบับพิเศษ