ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดั่งนี้แล้ว เมื่ออิฐทรงสีบนสนิทแสดงธรรม จึงได้กฐินพระคาถาเหล่านี้ว่า:-
๔. ปาโจปิสสติภง ยาว ปาน น ปัจจติ
ยาทา จ ปัจจติ ปาโจ อด (ปาโจ) ปานี ปสุตติ.
ภาโจปิสสติปาโจ ยาว ภกรี น ปัจจติ
ยาทา จ ปัจจติ ภกรี อด (ภกรี) ภกรีนา ปสุตติ.
แม้นผูทำบาป ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอดกาลที่บาปยังไม่ผลิดผล,
แต่เมื่อใด บาปผลิดผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นบาปว่าขั้ว,
ฝ่ายชำระกรรมย่อมเห็นกรรมดีว่าร่วงตลอดกาลที่กรรมยิ่งไม่ผลิดผล,
แต่เมื่อใด กรรมดีผลิดผล เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าขั้ว.
ในกาสงเวหามเทวาดนั้ นดาราอยู่ในโสดาปิติผล.
พระธรรมเทวาได้รับประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้มากาประชุมกัน ดังนี้แล.
เรื่องอนาถินิกเศรษฐี จบ.
๓) จูฬกัมมวิ่งฺคุปสุตตร ว่าด้วยการจำแนกกรรม สูตรเล็ก
ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสูตรกิตาม เป็นบุญกิตาม เป็นผู้ให้
ข้าว, น้ำ, ผัก, ยาน, ดอกไม้, ของหอม, เครื่องลบไล่, ที่นอน, ที่พัก,
เครื่องประทีปแก่สมณะหรือพรหมนั้ น เพราะกรรมนัน (ความ
ไม่ตรงกัน) ที่เขาให้บริบูรณ์ย่อมมิใช่อย่างนั้น หลังจากตายแล้ว
เขาจึงไปเกิดในสูติในโลกสวรรค์ หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในสุตติ
โลกสวรรค์ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในที่ใดๆ เขาก็จะเป็นผู้มีโภคะมาก