ข้อความต้นฉบับในหน้า
เขาไปสำนักของลุงแล้ว กล่าวว่าลุงแม้เราทั้งสองสร้างรวมกันที่เดียว" ในเวลาที่ถูกลุงขึ้นมาว่า"เราคนเดียวเท่านั้นจักสร้างไม่ให้สาธารณะกับด้วยหมาหล่ออื่น" จึงคิดว่า"เมื่อยิงสร้างต้นธูปในที่นี้แล้ว เราก็ได้ศิลารายในที่นี่"
จึงให้คน นำเครื่องไม้มาจากป่า ให้หาเสาอย่างนี้ คือ"เสาต้นหนึ่งบุด้วยทองคำ ต้นหนึ่งบุด้วยเงิน ต้นหนึ่งบุด้วยแก้วนี้" ให้ทำชื่อ พรีง บานประตูบานหนึ่งต่าง กลอนเครื่องมูมจูแม้ทั้งหมดบุด้วยตัวมูทองคำเป็นต้นเทียว ให้ทำศิลารายสำเร็จด้วยรตนะ ๗ ประการ แต่พระถอดดกในที่รงหน้า พระคัมฤกษ์
ในเบื้องบนแห่งศิลารายนี้ได้จองยอด ๓ ยอด อันสำเร็จแล้ว ด้วยทองคำอันสุโก้ยเป็นแท่ง แก้วพลึกและแก้วประพาด ให้สร้างมณฑป ประดับด้วยแก้วในที่ท่ามกลางแห่งศิลาราย.
ให้ตั้งธรรมสนใน ใว้ ท่ธรรมสนนั้นได้สำเร็จด้วยของคำสุกเป็นแท่ง, แม่คั ๔ อันก็เหมือนกัน แต่ให้กระทำเทพทองคำ ๕ ตัวตั้งไว้ในภายใต้แห่งเทาทั้ง ๔ แห่งอาสนะ, ให้กระทำเทพทองคำ ๒ ตัวตั้งไว้ในภายใต้ตั้งสำหรับรองเท้า ให้กระทำเทพทองคำ ๖ ตัวตั้งไว้ล้วนอให้ตั้งสำหรับรองเท้า ให้กระทำเทพทองคำ ๖ ตัวตั้งล้วมห่อแม่ถธรรมสนด้วยเชือกเส้นเล็กสำเร็จด้วยดยก่อนแล้ว จึงให้ถวายเชือกอันสำเร็จด้วยทองคำในท่ามกลาง แล้วให้ถวัลยเชือกสำเร็จด้วยแก้วมุุกในเมืองบน พนักแห่งธรรมสนนั้น ได้สำเร็จด้วยไมจันทน์.
ครั้นให้ศิลารายสำเร็จอย่างนี้แล้วเมื่อจะกระทำการยกศิลาจีนิมิตพระศากดาพร้อมด้วยกฏญ ๖ ล้าน ๘ แสน ได้ถวายทานตลอด ๔ เดือน. ในวันสุดท้ายได้ถวัลไตรจีวร บรรดาคุณเหล่านั้น จิรมีค่าพันหนึ่ง ถึงแก่กิยผู้ไหมในสิงห์แล้ว.
เขาทำบุญธรรมในกาลแห่งพระวินสีพล้อเจ้าอย่างนั้นแล้ว เคลื่อนจากอัตภาพนั้น ท่องเที่ยวไปในเทวาและในมนุษย์ทั้งหลาย ในภัทรกัปนี้เกิดในสุดสุคูลเศรษฐีโคละมากในกรุงเทพฯ ได้มีนามว่า พราราสิเศรษฐี.
[หน้าหนังสือ 138]
**Note**: The extracted text is in Thai language.