ข้อความต้นฉบับในหน้า
Becauseเนินพระเณรนั้นแล ดวงหัยของมหาเศรษฐีก็สั่นสะท้าน เขาคิดว่า
"เรามาที่นี่ เพราะกลัวบุคลลหลายผู้มีรูปอย่างนี้นั่นแล แต่ตามะนี้ยังมยืน
อยู่ที่ช่องหน้าต่างได้" เมื่อไม่เห็นเครื่องมือที่ตนควรจะววยเอา เดือดดาล
ทำเสียงตูๆ ประดุจก้อนเกลือที่ถูกโรงในไฟ จึงกล่าวอย่างนี้ว่า "สมะแระ
ท่านยืนอยู่ในอากาศ จักได้อะไร? มังกรมแสดงรอยเท้าในอากาศซึ่งหารอย
มีได้ยกก็จกไม่ให้เหมือนกัน." พระเณรจึงงนงบัลลังก์
ต่อมานั้น เศรษฐีกว่า ท่านว่า "ท่านนั่งในอากาศ จักได้อะไร? แม้ม
ยืนที่ธรรธีนาที่ต่างก็ย่อไม่ได" พระเณรได้ยืนอยู่ที่ธรรดี (หน้าต่าง) แล้ว.
ต่อมานั้น เขากลาวว่าท่านว่า "ท่านยืนที่ธรรดี (หน้าต่าง) จักได้อะไร?
แม้มังวนควันแล้ว ก็จกไม่ได้เหมือนกัน." แม้พระเณรวั่งหววนควับ
ปราสาททั้งสิ้นได้มว้นเป็นกลุ่มเดียวกัน.
อากาศนั้น ได้เป็นเหมือนเวลามีท่ีเทวดาทั้งสองของเศรษฐีก็ว่ากล่าวว่าท่านว่า "แม้ท่านให้ไฟโผลงอยู่ก็จกไม่ได้" เพราะกลัวไฟไหม
เรือน แล้วก็ดว่า "สมณะนี้ จักเป็นผู้เกี่ยวข้องอย่างสนิท ไมได้แล้วจักไม่ไป,
เราจักให้ดาวขนมแกท่านหนึ่ง" แล้วจึงกลาวว่าเธอว่านว่า "นางผู้เจริญ
เธอจงทอดขนมชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่ง ให้แก่สมณะแล้ว จงส่งท่านไปเสียเถอะ."
นางหยดแปลงในอากาศเบ่งบึงฉิใดเดียว (แต่) ขนม (กลาย) เป็น
นมชิ้นใหญ่ ได้พลั้งนี้เต็มทั้งอากาศ ดั่งอยู่แล้ว เศรษฐีก็เห็นเหตุนั้นกล่าวว่า
"(ชรอย) หล่อนจักหยิบแป้งมาไป" ดังนี้แล้ว ตักแป้งหน่อยหนึ่งด้วยมุม
ทัพพีแล้ว หยอดเองที่เดียว ขนมเกิดใหญ่กว่าขนมชิ้นก่อน. เศรษฐีก็อวดขนม
ชิ้นใด ด้วยอาการอย่างนั้น, ขนมชิ้นนั้น ๆ ก็ก็ใหญ่โตก็ดีแล้ว เขาเบื่อหน่าย
จึงกล่าวว่ากระรรมว่า "นางผู้เจริญ เธอจงให้ขนมแกสมณะนี้ชิ้นหนึ่งเถอะ."