ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเดชะกล่าวว่า “จงสำเร็จอย่างนั้นเถิด” ยืนอยู่นั้นแหละ ทำจนโมทนาแล้ว ได้ยืนทำภัตติที่ ที่สะดวกด้วยน้ำแห่งหนึ่ง ฝ่ายนางกลับไปหาข้าวสารหุงเป็นภัตแล้ว แม้นวาปุณฺณะใดก็ได้ประมาณครึ่งกีริส ไม่อาจทนความหิวได้จึงปล่อยโคเข้าไปยังร่มไม้แห่งหนึ่งนั่งคอยดูทางอยู่ ลำดับนั้น ภรรยา ของเขาถือถาดเดินไป พอเห็นเขาก็ติดว่าความหวิบปิ่นกัน นั่งคอยดูเธออยู่แล้ว ; ถ้าเขาจักคุ้มความว่า “เจ้าชักช้าเหลือเกิน” แล้วเอาถาดปุ๊กฟาดเรา กรรมที่เราทำแล้วจักเป็นของไร้ประโยชน์ เราจักต้องชิงบอกแก่เขาก่อนที่เดียว” ดังนี้แล้ว จึงกล่าวอย่างนี้ว่า “นายท่านจงทำจิตให้ผ่องใสส่วนหนึ่งเถิด วันนี้ ไม่ให้ทำกรรมที่ฉันทำแล้วให้ไร้ประโยชน์ กิฉันนำกำนิดมาให้ท่านแต่เช้าตรู่ พบพระธรรมเสนาบดีในระหว่างทาง จึงถวายภัตของท่านแต่พระเธอนั้น แล้วไปหุงภัตใหม่ จงทำจิตให้โล่งใสเถิดนะ” เขาถามว่า “เจ้าพูดอะไร? นางผู้อธิษฐาน” ได้กล่าวเรื่องนั้นซ้ำอีกแล้ว จงพูดว่า “นางผู้อธิษฐาน” เจ้าวายัติของเราแก่ผู้เป็นเจ้า ทำความดีแล้วเทียว, เช้าตรู่วันนี้ แม้เราได้ถวายไม้สัปพิน และน้ำบัวปลากแก่พระผู้เป็นเจ้า” มีใจเลื่อมใสเทพอิภพลินด้วยดำเนินแล้ว เป็นผู้มีอ่อนเพลียเพราะได้ถอดในเวลาสาย พาดศีรษะบนตักของภรรยานั้นแล้วก็หลับไป
ทำนุบพระอริยเจ้า บ้านมีโรงสมบัติ ตลอด ๓ วัน ย่อมส่งผลเร็ว
ทานของสองสามมีกรรมรายอำนวยผลในวันนั้น
ครั้งนี้ ที่เขาได้นำไม้แค่พอเป็นทองคำเนื้อสุทธิมดหมด จนกระทั่งฝืนอองดิน ตั้งอยู่จงงามดจอดอรรถธิทา. เขาตื่นขึ้น แล้วเห็นแล้ว จึงพูดคระกรรมว่า “นางผู้อธิษฐาน” ที่นี่นานแล้วนั้น ปราอูญกฉันเป็นทองคำทั้งหมด, เพราะฉันได้ถอดสายเกินไป จะลายไปประมังหนอ?
๒๕
กาถาธรรมบท ฉบับพิเศษ เล่าเรื่องเศรษฐี