ข้อความต้นฉบับในหน้า
เธอว่า "กิจจะ ขอดูครับ." พระเณรทำหัวนั้นไดร์ในทีนี้นั้นเองแล้วอธิษฐานว่า "ขอเห็นมันใดจงมีชุ้มโปรดพระเดชพระคุณ." บันใดก็ได้เป็นแล้วอย่างนั้นน่ะแหละ พระเณรให้เศรษฐีและภรรยาถึงพระเดชพระคุณ เรียกว่ากัลกาลที่ลงไปจากปราสาทบนถนนไปยังชั้นล่าง สามีกรรมยายแม้งกันสองคนนันเข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้วกราบทูลกาล พระศาสดาเสด็จเข้าไปสู่โรงฉันแล้ว ประทับนั่งบนพทอร์สนที่ขาปลาดไว้นแล้ว พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มหาศรมาเศรษฐีได้ด้วยทักษิณาอัคคิมญงมัมีพระพุทธเจ้าประมุข กรรไกล้นมในใบตรของพระตถาคตเจ้าแล้วแม้มหาเศรษฐีพร้อมด้วยภรรยา ถวริโภคบนนมพอแก้วความต้องการ. ความหมดสิ้นของขนมไม่ปรากฏเลย มันมีอาณาจักรวางขนมเกากิในวิหารทั้งหมดและ (ให้)แก่คนกินคนทั้งหลายแล้วความหมดสิ้นไป (แห่งขนม) ก็ไม่ปรากฏอยู่นั้นเอง. เขาทั้งสองจึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญนมนมหึงความหมดไปไม่."
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ถ้ากระนั้น ท่านทั้งสองจงถือสิ่งที่ชู่มประตูพระเณรตรั้ว." เขาทั้งสองก็ทิ้งที่อยู่ใกล้ชุมประตู (พระเณรวัน). แม้วันนี้ ที่นั้น ยึงปรากฏชื่อว่า "เมืองนมเอง." มหาเศรษฐีพร้อมด้วยภรรยาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่งแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรงกระทำอนุโมทนาแล้ว ในกลางอนุโมทนา สามีและภรรยามั้งสองดำรงอยู่ในโสดาปัตติ ผลแล้ว ถวายบังคมพระศาสดา ขึ้นนั่งใกล้ชุมประตู (พระเณรวัน) แล้วสักอยูที่ปราสาทของตนทีเดียว ตั้งแต่นั้นมา เศรษฐีพอเกลี้ยทรัพย์จำนวน ๕๐ โกฎิ ในพระพุทธศาสนานั้นแล.