ข้อความต้นฉบับในหน้า
จำเดิมแต่เวลาไปสู่สุราสามีแล้ว นางมีได้เพื่อจะเข้าไปหากิฐฐิ
หรือกิฐฐิ หรือเพื่อถวายทานหรือฟังธรรมเลย. เมื่อส่วงไปได้ประมาณ
2 เดือนครึ่ง ด้วยอาการอย่างนี้ นางจึงถามสาวใช้ผู้อยู่ในสำนักว่า "เวลานี้
ภายในพระทรายเหลืออีกเท่าไร?" สาวใช้ยังอยู่ครึ่งเดือน คุณแม่.
คนรักบุญ ย่อมแสดงหาโอกาสในการทำบุญ
นางส่งข่าวไปให้ด่าว่า “เหตุใดนะ บิดาจึงจงคิดฉันไว้ในเรือน มีรูป
อย่างนี้? การที่บิดาทำฉันให้เป็นคนเสียโฉม แล้วประกาศว่า เป็นทาสของ
ชนพวกอื่น ยังจะประกเสริฐกว่า, การที่ยกให้แก่ตระกูลฉานทู่เห็นปานนี้
ไม่ประเสริฐเลย, ตั้งแต่ฉันมาแล้วฉันไม่ได้ทำบุญสักอย่างในพระบุญ
มีการพบเห็นภูมิเก็นต้นเลย.”
ดังนั้น บิดาของนางให้รู้สึกไม่สบายใจ ด้วยคิดว่า “ตีดาของเราได้รับ
ทุกข์หนอ” จึงส่งทรัพย์ไป ๕๕,๐๐๐ กาบปละ ด้วยสั่งว่า “ในนครนี้ มีกุญ
คุณกาครือษิริมา, เจ้าจงพูดว่า “หล่อนจงรับทรัพย์อันละ ๑,๐๐๐ กาบปละ
นางมาด้วยหาปละเหล่านี้ ทำให้เป็นนางบำเรอของสามีแล้ว ส่วนตัวเจ้
จงทำบุญทั้งหลายเถิด.”
นางให้ฉันสร้มามแล้ว พูดว่า “หลายเธอรับทราบปละเหล่านี้แล้ว
บำเรายาย ของเธอก็ถึงเดือนนี้ดิ้น.”
นางสิริมานรับรองว่า “คึล ฯ” นางพาเขาไปสำนักของสามี เมื่อนั้น
เห็นนางสิริมาแล้ว กล่าวว่า “อะไรนั่น?”Ịงบอกว่า “นายขอให้หญิงหลาย
ของฉันบำเรอนายตลอดกึ่งเดือนนี้, ส่วนฉันใครจะถวายทานและฟังธรรม
ตลอดกึ่งเดือนนี้.”
เศรษฐีบุตรเห็นนางมีปูมาง เกิดความสนใจ จึงรับรองว่า “ดิละ.”