ข้อความต้นฉบับในหน้า
ลำดับนั้นพระเกราะได้อาบาตรและผ้ากรองน้ำออกมาให้เขาเขาคิดว่า
“พระเกราะจักมีความต้องการด้วยน้ำเต็ม” จึงถือเอาบาตรและผ้ากรองนั่นแล้ว
ได้กรองน้ำดื่มถวาย
พระเกราะคิดว่า “นายปุณณะนี้ อยู่เรือนหลังท้ายของชนเหล่านั้น,
ถ้าเราจากไปสู่ประตูเรือนของเขา, กรรายของนายปุณณะนี้จักไม่ไ่่ได้ เห็นเรา;
เราจักต้องอยู่ ณ ที่นี้แหละ จนกว่าครรรษของเขาจักเดินทางนำเอามาให้เขา”
พระเกราะได้ใช้เวลาไล่ลงไปเล็กน้อย ณ ที่นี้เอง ทราบความที่รรษของนาย
ปุณณะนั้นขึ้นสู่ทางแล้ว จึงเดินมุ่งหน้าไปในพระนคร
มีศรัทธามาไทยธรรม มีเนื้ออนุบุญให้รับทำบุญ
ภรรยานายปุณณะถวายภัตแก่วพระเกราะ
นางพบนพระเกราะในระหว่างทางแล้ว คิดว่า “บกรวด เมื่อมีไทยธรรม,
เราก็ไม่พบพระผู้เป็นเจ้า, บางครราว เมื่อเราพบพระผู้เป็นเจ้า, ไทยธรรมก็ไม่มี,
วันนี้ เราได้พบพระผู้เป็นเจ้าแล้ว, ทั้งไทยธรรมก็มีอยู่; พระผู้เป็นเจ้า
จัดทำความอนุเคราะห์แก่เราหรือหนอเเล” นางวางภาชนะใส่ółงแล้ว
ให้พระเกราะด้รับอนุญาตประกาศุติแล้วกล่าวว่า “ท่านผู้จิรโญพระผู้เป็นเจ้า
อย่าคิดว่า กัณฐี ‘เศร้าหมองหรือประดิษฐ’ จงทำความสงเคราะห์แก่ทาสของ
พระผู้เป็นเจ้าเถิด
“พระเกราะน้อมบาตรเข้าไปเมื่ออามือข้างหนึ่งรองภาชนะ อีกข้างหนึ่ง
ถ้วยดั่งอยู่, เมื่ออาวลีได้ครึ่งหนึ่ง จึงอามือปิดบาตรด้วยพูดว่า “พอแล้ว.”
นางกล่าวว่า “พระคุณเจ้า ส่วนเพียงส่วนเดียว ดีฉันไม่อาจทำให้เป็น
สองส่วนได้, พระผู้เป็นเจ้าไม่ต้องทำความสงเคราะห์แก่ทาสของพระผู้เป็นเจ้า
ในโลกนี้ จงทำความสงเคราะห์ในปรโลกเถิด, ดัฉันประสงค์ จะถวายมีให้เหลือ
เศษละ” ดังนี้แล้ว ก็ได้ใส่รัตน์ผมลงไปในบาตรของพระเกราะแล้วทำความ
ปรารถนาว่า “ฉันพึงเป็นผู้ส่วนแห่งธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าเห็นแล้วนั้นแหละ”