ข้อความต้นฉบับในหน้า
• ในคาถาธรรมบทเรื่องจุฬาลุภา ได้บรรยายความตอนหนึ่งซึ่งส่งเรื่องความตระหนี่ในใจไว้ ดังนี้ “……ขณะนั้นจิตประกอบด้วยความตระหนี่พันดวงเกิดขึ้นแล้วแก่เขา, จิตประกอบด้วยสัณฑารดวงเกิดขึ้นอีก, จิตประกอบด้วยความตระหนี่พันดวงเกิดขึ้นครอบงำจิตมั่นนั่นอีก. ความตระหนี่นี้มิอาจจะของเขาอดคอดกันสัณฑารดไว้ดูดูดับมิอยู่เฉยด้วยประกายนี้.” ความตระหนี่กับความศรัทธา, บุญกับบาปในใจสู้กันตลอดเวลา
• ในคาถาธรรมเรื่องนางวิสาขา ความตอนหนึ่งว่า “เมื่อมีศรัทธาโอโหร และโกคะก็โอโหร ง่ายอมหาอาศาทำฤดูกาลให้มากได้ ฉันนั้น”
๒. เรื่องอนาคตนภิทธิฤทธิ์ (รายพอประมาณ แต่น่ารำคาญใหญ๋, ดังความปรารถนามายาวนาน) ชื่อเดิมว่า สุทธิอตะ เป็นบุตรสรุนเศรษฐี กรุงเทพดี. เป็นผู้ให้ทานแก่คนยากจน จึงได้มีชื่อว่า อนาคตนภิทิกะ ได้ตั้งความปรารถนาตำแหน่งเอตทัคคะเป็นสิบว่าพวกอุบาสกผู้ถวายทาน ต่อหน้าพระพุทธเจ้า พระนามว่า ปุณณมุตตระ
แม้จะไม่ได้เป็นเศรษฐีประเภทสมบัติทัตไม่พร้อง ๕ คน คือ โชคิะ ๑, ชฏิล ๑, เมณฑกะ ๑, ปุณณะ ๑, กาฬวลี ๑. แต่มีความศรัทธาที่มั่นคงเป็นอุปจาริกใหญ่ เป็นกำลังในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา, ได้สร้างพระเจดีย์มหาวิหารถวายนงลักษณ์. ในเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าศรัทธาสำคัญมากกว่าทรัพย์สมบัติ เพราะในยุคเดิมนี้มีเศรษฐีมากแต่ศรัทธาไม่เท่าอาณาจักรฤทธิฤทธิ์ฤทธิ์ฤทธิ์ในกุศลร่างกายกัน
• ในอดีตรุตร ความตอนหนึ่งว่า “ผู้ใดจะเป็นศรัทธาหรือบูชาตามมีทรัพย์ ๗ ประการนี้ คือ สัทธะนา สิกขา สริสะ โอทตัปปะ สุตนะ จาคะนะ และปัญญา_nะ ผู้นั้นแลเป็นคนมีทรัพย์มาก”