ข้อความต้นฉบับในหน้า
การกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการนั่งทีละน้อย และกล้าที่จะทำให้ตัวเองก้าวหน้าในการทำความดี ด้วยการ
ท่าสมาธิ
วิริยะระดับกลาง เป็นการนั่งสมาธิทุกวันไม่ขาด นั่งเรื่อยๆ แต่จะเข้าถึงเมื่อไหร่นั้นก็เป็นเรื่องของใจ
แต่มีความเพียรทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นความกล้าที่เพิ่มขึ้นในการทำ จะทำความดีอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง
ผู้ที่ทำได้อย่างนี้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ต้องได้บรรลุแน่นอน
วิริยะระดับสูง คือ การทำสมาธิอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตั้งมั่นว่าเมื่อนั่งลงไปแล้วไม่ได้ยอมตาย
กันทีเดียว ในทางพระพุทธศาสนาจัดว่าเป็นปรมัตถบารมี ถ้าไม่ได้ยอมตาย เป็นการนั่งทำความเพียรแบบ
เด็ดขาด เรียกว่าไม่ได้ตายเถิด การนั่งแบบนี้จะขึ้นอยู่กับบารมี บางคนก็ตายจริง บางคนก็ไม่ตาย แต่ถึงแม้
จะตายแต่ยังทำไม่ได้ในภพนี้ ก็จะไปได้ในชาติหน้า
ตัวอย่างของบุคคลผู้มีความเพียรอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในพระไตรปิฎกก็มีกล่าวไว้ ในที่นี้จะขอ
ยกกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าวนี้ ดังต่อไปนี้
เรื่องของภิกษุ 7 รูป
ในอดีตเล่ากันมาว่า ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
พระองค์ทรงยังศาสนธรรมให้รุ่งโรจน์ ข่มขู่เดียรถีย์ผู้หลอกลวง ทรงแนะนำเวไนยสัตว์ แล้วเสด็จ
ปรินิพพานพร้อมทั้งพระสาวก ครั้นเมื่อพระโลกนาถพร้อมทั้งพระสาวกปรินิพพานแล้ว เมื่อศาสนธรรม
กำลังจะสูญสิ้นอันตรธาน ทวยเทพและมนุษย์พากันสลดใจ สยายผม มีหน้าเศร้าคร่ำครวญว่า ดวงตา คือ
พระธรรมจะดับแล้ว เราจะไม่ได้เห็นท่านผู้มีวัตรดีงามทั้งหลาย เราจะไม่ได้ฟังพระสัทธรรม โอหนอ
พวกเราเป็นคนมีบุญน้อย ครั้งนั้น พื้นปฐพีทั้งหมดนี้ ทั้งใหญ่ทั้งหนา ได้ไหวสั่นสะเทือน สาครสมุทร
ดุจเหือดแห้ง แม่น้ำครวญครางน่าสงสาร อมนุษย์ตีกลองดังทั่ว 4 ทิศ อสนีบาตอันน่ากลัว ตกลงโดยรอบ
อุกกาบาตตกจากท้องฟ้า ดาวหางปรากฏ เกลียวแห่งเปลวไฟ มีควันพวยพุ่ง หมู่สัตว์ร้องครวญคราง
อย่างน่าสงสาร
ในขณะนั้นมีภิกษุ 7 รูป เห็นเหตุการณ์เหล่านั้น เกิดความสลดใจ คิดว่า “ความอันตรธานแห่ง
พระศาสนายังไม่มีเพียงใด พวกเราจะกระทำที่พึ่งแก่ตนเพียงนั้น” ไหว้พระเจดีย์ทองคำแล้ว เข้าไปสู่ป่า
เห็นภูเขาลูกหนึ่ง จึงกล่าวว่า “ผู้มีอาลัยในชีวิตจงกลับไป ผู้ไม่มีอาลัยจงขึ้นภูเขาลูกนี้” พาดบันไดแล้ว
แม้ทั้งหมดขึ้นสู่ภูเขานั้น ผลักบันไดทิ้งแล้วกระทำสมณธรรม
บรรดาภิกษุเหล่านั้น พระสังฆเถระบรรลุพระอรหัตโดยล่วงไปราตรีเดียวเท่านั้น พระเถระนั้น
เคี้ยวไม้ชำระฟันชื่อนาคลดาในสระอโนดาต นำบิณฑบาตมาแต่อุตตรกุรุทวีป แล้วกล่าวกับภิกษุเหล่านั้นว่า
“ผู้มีอายุทั้งหลาย พวกท่านเคี้ยวไม้ชำระฟันนี้ บ้วนปากแล้ว จงฉันบิณฑบาตนี้”
ภิกษุ ท่านผู้เจริญ ก็พวกเราทำกติกากันไว้อย่างนี้ว่า “ภิกษุใดบรรลุพระอรหัตก่อน ภิกษุทั้งหลาย
ที่เหลือ จะฉันบิณฑบาตที่ภิกษุนั้นนำมาหรือ”
พระเถระกล่าวว่า ผู้มีอายุ “ข้อนั้นไม่มีเลย”
8 DOU สมาธิ 4 เทคนิคการทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย