ข้อความต้นฉบับในหน้า
แม้ตัวเราเองก็ไม่แข่ง อาการของจิตในลักษณะนี้เป็นอาการของจิตที่เหมาะแก่การเข้าถึงธรรม
2) ให้เราคิดว่า เรากำลังสะสมความดี สะสมความเบาสบาย สะสมความสุขในการนั่ง โดยไม่คำนึง
ถึงเรื่องผล เหมือนการรดน้ำต้นไม้ ถ้าเรามีความรู้สึกค่อยเป็นค่อยไปเหมือนได้สมบัติทั้งโลก ใจเราจะไม่
เร่าร้อน ค่อยพัฒนาอย่างมีความสุข แล้วจะเข้าใจทุกประสบการณ์ และนำไปสู่ความมั่นคง
3) การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงธรรมกายนั้น เราจะต้องฝึกนิสัยใหม่ให้เป็นคนที่ใจเยือกเย็น ใจใส
ใจสบายอย่างเยือกเย็น อย่าเร่งร้อน ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปมีความตั้งใจมากเกินไป แม้ว่าส่วนลึกๆ
ของใจเรา เราอยากได้ธรรมกายจริงๆ เราอยากเข้าถึงจริงๆ เราอยากเห็นพระธรรมกายจริงๆ เพราะเรา
ได้ยินได้ฟังคนโน้นคนนี้ที่เข้าถึงเค้าพูดกัน เค้ามีความสุข เค้ามีความเบิกบาน เราก็อยากจะเข้าถึงกับเค้าบ้าง
ไม่ว่าเราจะพยายามยังไงก็แล้วแต่ ส่วนลึกๆ ก็ยังเกิดความรู้สึกอย่างนี้ ก็ให้อยู่ในส่วนลึกของใจ
ความอยากอย่างนี้ อยากที่จะได้ อยากที่จะเห็น อยากที่จะเป็นธรรมกาย ให้มันอยู่ส่วนลึกๆ แล้วพยายาม
หักห้ามใจที่จะเผลอทะยานอยากได้เร็วๆ พยายามหักห้ามใจไว้ โดยการทำใจให้ใสเยือกเย็น แล้วก็สอนตัว
ของเราเองทุกๆ ครั้งที่ปฏิบัติธรรม ทุกๆ วัน ว่าวิวัฒนาการหรือการเจริญเติบโตของสรรพสิ่งทั้งหลาย
ก็จะต้องเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างเช่นเราปลูกต้นไม้ เมื่อเราฝังเมล็ดลงไปในดิน หน้าที่ของเรา
เพียงแค่รดน้ำทุกวัน ส่วนการเจริญเติบโตก็เป็นหน้าที่ของเมล็ดผลไม้นั้น ซึ่งจะเจริญเติบโตแบบค่อยเป็น
ค่อยไป เราก็มีหน้าที่รดน้ำไปทุกวัน ความเจริญเป็นหน้าที่ของต้นไม้ ทำไปอย่างนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งผลแห่ง
ความเพียรของเราปรากฏเกิดขึ้น ต้นไม้นั้นก็ให้ดอกให้ผล การเจริญเติบโตของร่างกายเราก็เช่นเดียวกัน
เราก็รับประทานอาหารไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ร่างกายก็ค่อยๆ เจริญเติบโตทีละเล็กทีละน้อย เราสังเกต
ไม่ออกหรอกว่าอาหารมื้อหนึ่ง จะทำให้ร่างกายเราโตวันละกี่เซนติเมตร เรานึกไม่ออก แต่เผลอๆ
เรากเปลี่ยนจากวัยทารก มาเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว เจริญเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ
การปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกัน เราจะเร่งรีบเร่งร้อนไม่ได้ เหมือนต้นไม้ เหมือนร่างกายของเรา
จะค่อยๆ เจริญเติบโตไป ทางจิตใจเมื่อเราทำสมาธิทุกๆ วัน ปฏิบัติธรรมทุกวัน ฝึกใจหยุดใจนิ่งให้มีชั่วโมง
หยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลางให้มากๆ เหมือนนักบินมีชั่วโมงบิน สมาธิก็จะค่อยๆ ถูกสะสมไปทีละเล็ก
ทีละน้อย ใจของเราที่หยาบก็จะค่อยๆ ถูกขัดเกลาให้ละเอียดไปทีละเล็กทีละน้อย สิ่งที่เป็นมลทินของใจเรา
ที่ไม่บริสุทธิ์ก็จะถูกขัดเกลาไปเช่นเดียวกันทีละเล็กทีละน้อย ในที่สุดก็บริสุทธิ์ขึ้น และละเอียดขึ้น
และสักวันหนึ่งเราก็จะสมหวัง
4) พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้แนะว่า ให้เราวางเฉยๆ จะสบายเอง วางธรรมดาๆ เฉยๆ
ไม่ได้หมายถึงช้า หรือไม่สมหวัง เฉยๆ แล้วใจจะละเอียดเอง จำอารมณ์นั้นไว้ เฉยๆ สิ่งเหล่านี้จะผ่านตัว
เราไป ถ้าของหลวงพ่อคือดูธรรมดา การไม่ฝืน การไม่ต่อต้าน จนเกิดความสบาย จิตจะละเอียดใจรวมเอง
* พระราชภาวนาวิสุทธิ์, พระธรรมเทศนา, 19 มีนาคม 2536.
2
พระราชภาวนาวิสุทธิ์, พระธรรมเทศนา, 6 มิถุนายน 2536.
64 DOU สมาธิ 4 เทคนิคการทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย