ข้อความต้นฉบับในหน้า
อีกประการหนึ่ง ถ้าหากทำไปเรื่อยๆ มีจิตตะ แต่ถ้าไม่ได้พัฒนาแนวทางการปฏิบัติ การปฏิบัติก็
จะไม่ก้าวหน้า
จากข้างต้นจะได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพของการใช้วิมังสาในการทำหน้าที่ให้การปฏิบัติธรรมบรรลุผล
ดังตัวอย่างของพระโสณโกฬิวิสะ
ท่านโสณะเป็นพระสาวกผู้เลิศทางด้านการทำความเพียร แต่ในช่วงต้น ท่านทำความเพียรจัดเกินไป
จนร่างกายบอบช้ำ จึงไม่สามารถบรรลุธรรมได้ การปฏิบัติของท่านนั้น ว่ากันว่า ถึงขั้นเลือดตกยางออก
กันทีเดียว มีเรื่องเล่าว่า ในช่วงต้นท่านได้ทำความเพียร ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นเหตุให้เกิดความง่วง
อย่างมาก เมื่อเกิดความง่วงขึ้น ท่านจึงเริ่มเดินจงกรม และการเดินจงกรมของท่าน ก็เดินเท้าเปล่า
เนื่องจากพระสมัยนั้นไม่ใส่รองเท้า เป็นเหตุให้เท้าของท่านแตก เมื่อเท้าของท่านแตก จนเดินไม่ได้ ท่านก็
ไม่ละความเพียรยังคงเดินต่อไปด้วยเข่า และในที่สุดก็ต้องคลาน สถานที่ท่านทำความเพียรจนพื้นที่ที่ทำ
ความเพียรเป็นสีแดงด้วยเลือดของท่าน สถานที่นั้นเป็นเหมือนลานเชือดโค ท่านพิจารณาเห็นว่าท่านทำความ
เพียรอย่างหนักประกอบด้วยฉันทะ วิริยะ จิตตะอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ทำให้ท่านบรรลุได้ ด้วยวิมังสาที่ยังไม่สมบูรณ์
ของท่าน ท่านจึงคิดว่า สงสัยเรานั้นจะไม่มีบุญได้บรรลุเป็นแน่ เพราะเราถึงทำความเพียรอย่างนี้แล้ว
ก็ยังไม่บรรลุ เกิดความท้อใจ จึงคิดสึกไปเป็นคฤหัสถ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
จึงทรงเสด็จมาเพื่อเป็นกัลยาณมิตรให้แก่ท่าน ด้วยการมาเติมวิมังสาให้สมบูรณ์ โดยใช้อุปมาของพิณ 3 สาย
ดังเนื้อเรื่อง ที่จะยกมาเป็นตัวอย่าง
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบปริวิตกแห่งใจของท่านพระโสณะด้วยพระทัย แล้วทรง
หายตัวจากภูเขาคิชฌกูฏไปปรากฏตรงหน้าของท่านพระโสณะที่ป่าสีตวัน ทรงประทับนั่งบนอาสนะที่
ได้ปูแล้ว แม้ท่านพระโสณะถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระโสณะว่า “ดูก่อนโสณะ ท่านหลีกออกเร้นอยู่ในที่ลับ เกิดปริวิตก
แห่งใจอย่างนี้ หรือว่าสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้ปรารภความเพียร เราก็เป็นผู้
หนึ่งในจำนวนสาวกเหล่านั้น ก็แต่ว่าจิตของเรายังไม่หลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น ก็โภคทรัพย์
มีอยู่ในสกุลของเรา เราอาจเพื่อใช้สอยโภคทรัพย์และทำบุญได้ หรือมิฉะนั้น เราควรบอกคืนสิกขา สึกมา
เป็นคฤหัสถ์ ใช้สอยโภคทรัพย์และทำบุญดีกว่า”
ท่านพระโสณะทูลว่า “อย่างนั้น พระเจ้าข้า”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนโสณะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นอย่างไร ท่านเมื่อก่อน
ยังอยู่ครองเรือน เป็นผู้ฉลาดในการดีดพิณ ใช่หรือไม่”
ท่านพระโสณะทูลว่า “ใช่ พระเจ้าข้า”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนโสณะท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นอย่างไร ก็เมื่อใดสายพิณของ
ท่านตึงเกินไป เมื่อนั้น พิณของท่านย่อมมีเสียงไพเราะหรือ ย่อมควรแก่การใช้งานหรือไม่”
โสณสูตร อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต, มก. เล่ม 36 ข้อ 326 หน้า 706.
บทที่ 1 อิ ท ธิ บ า ท 4 DOU 13